ดูท่าโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู (ASF) ที่ระบาดในจีนไม่ใช่ปัญหาเล็กๆของชาวโลกซะแล้ว

แม้โรคนี้จะไม่ร้ายแรง ไม่สามารถติดต่อมาสู่มนุษย์ได้ก็ตาม...แต่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรได้มากมายมหาศาล

นอกจากจะไม่มีวัคซีนป้องกัน ไม่มียารักษาแล้ว เชื้อโรคตัวนี้มีความคงทนอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นาน อยู่ในเนื้อแช่แข็งได้ 1,000 วัน

แม้แต่หมูที่ติดเชื้อหายป่วยจากโรคแล้ว เชื้อยังคงอยู่ในร่างกายได้ตลอดไป เป็นพาหะแพร่โรคได้ตลอดชีวิต...การกำจัดโรคให้หมดไปจากพื้นที่ระบาดจึงเป็นไปได้ยาก

สรุปแล้วมีหนทางเดียว...ต้องกำจัดทิ้งให้สิ้นซาก

ด้วยเหตุนี้ ถ้าประเทศไหนมีระบบป้องกันไม่ดี ไม่รัดกุม ไม่เด็ดขาด เจ้าหน้าที่เปิดช่องโหว่ให้หมูเถื่อน หมูติดเชื้อ ASF จากต่างประเทศเล็ดลอดเข้ามาได้ล่ะก็... ความวิบัติย่อยยับย่อมเกิดขึ้นอย่างหลีกหนีไม่พ้น

และไม่ใช่เฝ้าระวังแต่หมูจากจีนเท่านั้น

เพราะก่อนหน้านี้ ก.ค.60 มีการระบาดที่กานา ในแอฟริกาตะวันตก...เม.ย.61 เชื้อโรคตัวนี้ได้ย้ายข้ามทวีปเข้าไปยังยุโรป เปิดฉากระบาดในฮังการี, โรมาเนีย, ยูเครน และลามไปยังโปแลนด์, ลัตเวีย และรัสเซีย จากนั้นย้ายลงมายังจีนเมื่อเดือนที่แล้ว

ล่าสุด 9 ก.ย.61 กระทรวงเกษตรญี่ปุ่นแถลงตรวจพบการแพร่ระบาดของโรคนี้ที่ฟาร์มสุกรและหมูป่า จังหวัดกิฟุ ภาคกลางของญี่ปุ่น...แต่เป็นคนละสายพันธุ์กับที่ระบาดในจีน

องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ค่อนข้างมั่นใจ...จะมีการระบาดไปสู่ชาติอื่นๆในเอเชีย

เหตุที่จะระบาดได้ง่าย เนื่องจากเชื้ออยู่ได้นาน จะกำจัดให้หมดไปต้องฆ่าหมู รัฐสั่งฆ่าฟรี ไม่จ่ายค่าชดเชย เจ้าของฟาร์มเลยไม่แจ้งทางการ ลงมือฆ่าเอง แล้วลักลอบเอาไปขายเอง...ขายถูกๆดีกว่าไม่ได้เงินเลย

...

เป็นโจทย์ใหญ่ที่เจ้าหน้าที่รัฐต้องเข้มแข็งเข้มงวดการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนจากต่างประเทศในทุกช่องทาง...ก่อนที่อุตสาหกรรมหมูของไทยต้องล่มสลายเพราะความเห็นแก่ได้ของใครไม่กี่คน.

สะ–เล–เต