จากเหตุการณ์ น.ส.อิซาเบล วิคตอเรีย แบคเตอร์ นักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษ ร้องเรียนว่าตกเป็นเหยื่อถูกวางยาลักทรัพย์ และล่วงละเมิดทางเพศ ขณะเข้าไปเที่ยวที่บาร์ในเกาะเต่า แต่ตำรวจไทยปฏิเสธการแจ้งความ เป็นเรื่องที่ถูกนำมาแชร์ ทำให้ประเทศไทยได้รับความเสียหายอย่างมาก

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. ในฐานะรอง ผอ.ศูนย์ ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.ต.ปรีดี พงศ์เศรษฐสันต์ รอง ผบช.สพฐ พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 บช.ทท.ตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ และนำข้อมูลเข้าพบกงสุลใหญ่สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทยบอกว่าในช่วงวันที่เกิดเหตุ ตำรวจ.สภ.เกาะเต่าไม่ได้รับแจ้งความจากนักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษถูกข่มขืน มีแต่เจ้าของโฮสเทล ดิไฮฟ์ ในเกาะเต่ามาแจ้งว่า ลูกค้าที่มาพักที่โฮสเทลอ้างว่าถูกข่มขืน

แต่ไม่มีเจ้าทุกข์มาแจ้งความ

หลังรับเรื่องชุดสืบสวนตรวจเก็บกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุย้อนหลังไม่ได้ ข้อมูลลบไปแล้ว ตำรวจขอข้อมูลเพิ่ม ผู้เสียหายไม่ติดต่อกลับ จนมาเป็นข่าวใหญ่ที่ประเทศอังกฤษในเพจของ CSI la

หลังเกิดเหตุได้สอบพยานบุคคล และเก็บวัตถุพยานเอาไว้จำนวนหนึ่ง และคำให้การของ น.ส.ภัทรา แจ้มตระกูล เจ้าของโรงแรมที่นักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษพักอยู่ที่ยืนยันว่า วันเกิดเหตุสาวชาวอังกฤษนั่งร้องไห้หน้าโรงแรมจริง บอกว่าได้พลาดพลั้งไปมีสัมพันธ์กับเพื่อนชายที่มาเที่ยวด้วยกัน เนื่องจากดื่มสุรามึนเมา ประคองสติไม่อยู่ แต่กลัวแฟนหนุ่มที่เดินทางตามมาทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น

เจ้าของโรงแรมแนะนำให้ผู้เสียหายไปร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน จนเวลาล่วงเลยกลับพบว่า แหม่มสาวไม่ได้เข้าแจ้งความว่าถูกคนข่มขืน แต่มีมาแจ้งความที่ สภ.เกาะพะงัน ว่ามีทรัพย์สินสูญหาย

ไม่ได้พูดถึงการถูกข่มขืน

...

ตำรวจบอกว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จะต้องทำข้อเท็จจริงให้ปรากฏ ร้องขอให้ผู้เสียหายเดินทางเข้ามาเมืองไทย เพราะข้อมูลพยานหลักฐาน ร่องรอยและสารที่เพจลงข่าวอ้างว่าถูกมอมยา ยังไม่พบว่ามีเหตุการณ์ข่มขืนเกิดขึ้น เป็นเรื่องใหญ่ของรัฐบาลไทยในการสืบค้นหาความจริงให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะที่ผ่านมาเคยมีนักท่องเที่ยวได้แจ้งความว่าถูกทำร้ายร่างกายและทรัพย์สินสูญหาย เมื่อตรวจสอบไม่เป็นจริง สร้างเรื่องขึ้นมาเอง

ตำรวจฝากบอก หากมาเที่ยวในเมืองไทยแล้วเกิดเหตุการณ์ให้มาแจ้งความ เจ้าหน้าที่จะให้ความเป็นธรรมทุกคน ส่วนเว็บที่ปล่อยข่าวบิดเบือนข้อมูล เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุก 5 ปี

หากข้อมูลเป็นเท็จ คนที่แชร์วิจารณ์สร้างความเสียหายอย่างมากให้กับการท่องเที่ยวไทย

ต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th