สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ สัปดาห์นี้มีเรื่องที่น่าสนใจ เกี่ยวกับการกระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งจากข้อเท็จจริงน่าจะมีการหยอกล้อเล่นกัน ระหว่างคนที่ใกล้ชิดสนิทสนมกัน ด้วยการจักจี้เอว ซึ่งผู้กระทำความผิดอาจจะกระทำเกินเลยไปบ้าง ก็เป็นเรื่องปกติ แต่หากกระทำต่อผู้เสียหายเป็นประจำ ซ้ำๆ กัน การกระทำดังกล่าวย่อมเป็นเรื่องที่ผิดปกติ และแสดงให้เห็นถึงเจตนาไม่สุจริต ของผู้กระทำความได้
วันนี้มีคำพิพากษาฎีกามาให้ศึกษาครับ ซึ่งข้อเท็จจริงเบื้องต้นปรากฏว่า ผู้กระทำความผิดได้ลงมือกระทำอนาจารต่อเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีถึง 9 ครั้ง ด้วยการจับหน้าอกของเด็ก ซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้ลงโทษในข้อหากระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279 วรรคหนึ่ง แต่ต่อมาศาลฎีกาได้โปรดวินิจฉัยแก้เป็นว่า การที่จำเลยจับหน้าอกของเด็ก โดยไม่ปรากฏว่า เด็กได้อนุญาตหรือยินยอม การกระทำดังกล่าว จึงเป็นการใช้กำลังประทุษร้ายแล้ว ผู้กระทำความผิดจึงมีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279 วรรคสอง ซึ่งมีโทษหนักกว่า มาตรา 279 วรรคหนึ่ง
ตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 279 ผู้ใดกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคแรก ผู้กระทำได้กระทำโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้เด็กนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบห้าปี หรือปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

...
เทียบเคียงตัวอย่าง คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4977/2556
การที่จำเลยจับนมผู้เสียหายโดยไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายได้อนุญาตยินยอมนั้น เป็นการใช้กำลังประทุษร้าย เป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 279 วรรคสองแล้ว ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษาว่าการจับนมเป็นเพียงวิธีการทำอนาจารผู้เสียหายเท่านั้น ไม่เป็นการกระทำอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย จึงไม่ถูกต้อง ปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขให้ถูกต้องได้โดยไม่เพิ่มเติมโทษจำเลย ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง และมาตรา 212 ประกอบมาตรา 225
จากข้อเท็จจริงและหลักกฎหมายข้างต้น จะเห็นได้ว่ากฎหมายมุ่งคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีเป็นสำคัญ พิจารณาได้จากหลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 หรือ มาตรา 279 ไม่ว่าจะเป็นการกระทำชำเราเด็ก หรือการอนาจารต่อเด็ก จะกำหนดว่า “โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” ดังนั้น แม้ว่าเด็กจะยินยอมให้กระทำชำเราหรือกระทำอนาจารก็เป็นความผิดทั้งนั้น
การกระทำอะไรก็ตาม ที่จะกระทบกระเทือนสิทธิของเด็ก หรือกระทำความผิดต่อเด็ก จึงควรตั้งสติให้ดี เพราะหากพลาดพลั้ง ท่านอาจจะถูกลงโทษหนักกว่าการกระทำต่อผู้ใหญ่ครับ
สำหรับใครที่มีคำถามข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายและต้องการความช่วยเหลือ หรือมีเรื่องราวดีๆ อยากแบ่งปันประสบการณ์ เมลมาหาผมได้ที่ “คุยกับคนดัง” talktoceleb@trendvg3.com ได้เลยครับ
Facebook: ทนายเจมส์ LK