นายประพันธ์ ลีปายะคุณ ประมงจังหวัดเพชรบุรี เผยว่า จากสถานการณ์ปริมาณน้ำจำนวนมากที่จะไหลออกมาจากเขื่อนแก่งกระจาน เข้าสู่พื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ทางสำนักงานประมงจังหวัดเพชรบุรี ได้ติดตามความคืบหน้ามาตลอด โดยก่อนหน้านี้ได้ทำหนังสือพร้อมกับออกประกาศแจ้งเตือนเกษตรกรที่ทำอาชีพการประมงสัตว์น้ำ ทั้งเลี้ยงกุ้งและปลา พื้นที่ 2,000 ไร่ ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะอยู่ในพื้นที่ควบคุมเป็นบ่อปิด น้ำที่ระบายมายังไม่ล้นคันบ่อปลา ส่วนเลี้ยงหอยทะเลบริเวณปากแม่น้ำเพชรบุรี พื้นที่ 15,000 ไร่ ในเขต อ.เมือง กับ อ.บ้านแหลม อาจได้รับผลกระทบโดยตรง ขณะนี้ได้ออกประกาศเตือนชาวประมงให้ระวังแล้ว เพราะหากปริมาณน้ำจืดที่ไหลลงไปละลายความเค็มของน้ำทะเล การเลี้ยงหอยจะต้องใช้น้ำเค็มอยู่ที่ 15-20 ppt รวมทั้งอาจจะมีสารเคมี หรือสิ่งสกปรกในลำน้ำไหลไปสะสมในแปลงเลี้ยง ทำให้หอยตายได้

ส่วนการช่วยเหลือเกษตรกรที่อาจจะเกิดผลกระทบจากอุทกภัย ตามระเบียบของการช่วยเหลือเกษตรกรเลี้ยงกุ้งรายละไม่เกิน 5 ไร่ ไร่ละ 10,920 บาท เลี้ยงปลาและหอยไม่เกิน 5 ไร่ ไร่ละ 4,225 บาท แล้วแต่ผลการสำรวจจะดำเนินการอย่างเร่งด่วน
...

ด้าน นายอนันต์ สุนทร ประมงอำเภอบ้านแหลม จ.เพชรบุรี บอกว่า จากการออกตรวจพื้นที่ การเลี้ยงหอยทะเล ทั้งหอยแครง หอยแมลงภู่ และหอยนางรม ของเกษตรกรในพื้นที่ 10 ตำบล พบว่า ขณะนี้น้ำระบายจากเขื่อนแก่งกระจาน
ออกสู่ทะเลอย่างต่อเนื่อง มีปริมาณน้ำจำนวนมากไหลลงมาสู่ทะเล แต่จากการนำเรือตรวจการณ์พร้อมเครื่องมือออกไปตรวจสอบความเค็มและสารเคมีในน้ำ ยังไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด เพราะระดับน้ำทะเลยังคงขึ้น-ลงไปตามธรรมชาติ ไม่มีน้ำเอ่อหรือน้ำตาย ยังไม่มีผลกระทบต่อแปลงเลี้ยงหอย แต่ไม่ได้ประมาท ขณะนี้ได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ไปจนกว่าปริมาณที่ไหลลงมาจะกลับมาเป็นปกติ


แต่ถ้าหากเกิดเหตุการณ์น้ำเปลี่ยนแปลงค่าเค็มขึ้นมาเมื่อใด ทางประมงอำเภอบ้านแหลมจะจัดเจ้าหน้าที่พร้อมช่วยเหลือเกษตรกรด้วยการเร่งจับหอยขนาดใหญ่ขึ้นมาจำหน่ายไว้ก่อน ส่วนหอยขนาดเล็กจะนำไปเลี้ยงอนุบาลในบ่อศูนย์วิจัยประมงเพชรบุรี จนกว่าน้ำจะเป็นปกติจะนำกลับไปเลี้ยงในทะเลอีกครั้ง.