ล่าสุด องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ออกมาเตือนสถานการณ์โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ที่ระบาดในจีนมาตั้งแต่ต้นเดือนที่แล้ว จนต้องฆ่าหมูไปกว่า 24,000 ตัว ใน 4 มณฑล...โรค ASF อาจลุกลามไปยังพื้นที่อื่นในทวีปเอเชีย
แม้โรคนี้จะเป็นโรคที่พบเฉพาะในสัตว์ ไม่มีอันตรายต่อมนุษย์ และเป็นโรคระบาดประจําถิ่นของประเทศในทวีปแอฟริกา แต่จากการรุกคืบเข้าสู่จีนได้สร้างความหวั่นวิตกให้กับผู้เลี้ยงหมูทุกประเทศ
เพราะเชื้อไวรัสตัวนี้มีชีวิตอยู่ได้นานในสภาพแวดล้อมปกติ ปัจจุบันยังไม่มีทั้งวัคซีนป้องกันและไม่มียาที่รักษาโรคนี้ได้
สำหรับประเทศไทยแม้จะไม่มีประวัติการระบาดของโรคนี้ มาก่อนก็ตาม ยิ่งต้องตื่นตัว เฝ้าระวังและเร่งป้องกันทุกวิถีทาง โดยเฉพาะการปราบปรามการลักลอบนำเข้าหมูและเครื่องในหมูเถื่อน ที่ทุกวันนี้ยังพบว่ามีการลักลอบนำเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย ด้วยฝีมือกองทัพมดที่แอบลักลอบขนสินค้ามาตามแนวตะเข็บชายแดน โดยไม่ผ่านด่านตรวจเพื่อนำมาขายทำกำไรในบ้านเรา
ถือเป็นความเสี่ยงอย่างยิ่งในการรับเอาเชื้อโรคที่ติดมากับสินค้าเหล่านี้ เพราะอาจกลายเป็นชนวนเหตุของการนำเอาโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรมาแพร่ในไทยได้
วันนี้แม้ภาครัฐจะวางมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันตามพื้นที่เสี่ยงต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่ตามแนวชายแดนและด่านพรมแดนต่างๆมากเพียงใดก็ตาม แต่การดำเนินการนับจากนี้จะต้องเข้มงวดมากกว่าเดิมอีกเป็นทวีคูณ ให้เหมือนไต้หวันที่ออกมาตรการคุมเข้มเรื่องนี้อย่างจริงจังเป็นประเทศแรก เพื่อป้องกันโรคนี้อย่างถึงที่สุด
ต้องเร่งปราบปรามการลักลอบนำเข้าหมูและเครื่องในหมู ไม่ให้ผู้ประกอบการหัวหมอที่เห็นแต่ประโยชน์ของตนเอง ลักลอบเอาสัตว์ เนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศ
...
ขณะเดียวกันประชาชนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา สอดส่องไม่ให้กลุ่มคนเหล่านี้นำเชื้อโรคแฝงเข้ามาทำลายประเทศไทยได้ เพราะหากโรคนี้ผ่านเข้ามาถึงบ้านเรา นั่นเท่ากับหายนะจะเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมหมูไทยอย่างแน่นอน.
สะ–เล–เต