‘กสิกร’ขัดข้องนานค่อนวัน ทำเอาปั่นป่วนกันทั่วเมือง
ป่วนกันไปทั้งเมือง สิ้นเดือนเงินเดือนออกแต่โอนเงิน-ถอนเงินไม่ได้ หลังแบงก์รวงข้าวเจอปัญหาโมบายแบงกิ้ง-เอทีเอ็มล่ม แจงเกิดจากพอร์ตเครือข่ายแฮงก์ยันป้องกันล่มซ้ำซาก เพิ่มขีดความสามารถ 3 เท่าตัว เพิ่มช่องทางทำงานทดแทนกัน ด้านแบงก์กรุงศรีโดนหางเลขล่มไปด้วย ขณะที่สมาคมธนาคารไทย ยืนยันไม่เกิดปัญหากับภัยคุกคามทางไซเบอร์ เงินที่โอนไปแล้วไม่ได้รับเคลียร์ให้หมด 1 ก.ย.
ระบบการเงินธนาคารป่วนตอนสิ้นเดือน สร้างความโกลาหลให้กับผู้ใช้บัตรเอทีเอ็ม ครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 31 ส.ค.ธนาคารกสิกรไทยได้แจ้งผ่าน KBank Live ระบุว่า ระบบของธนาคารบางส่วนขัดข้อง อาจส่งผลให้ลูกค้าไม่ได้รับความสะดวกในการทำธุรกรรมบางรายการ โดยเฉพาะรายการต่างธนาคาร ธนาคารได้รับทราบปัญหาและเร่งดำเนินการแก้ไขให้กลับมาใช้งานได้โดยเร่งด่วน ขออภัยในความไม่สะดวก ต่อมาเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน ธนาคารกสิกรไทยแจ้งว่า ระบบโมบายแบงกิ้งและเอทีเอ็ม ของธนาคารกสิกรไทย สามารถกลับมาให้บริการได้ตามปกติ
ทั้งนี้ ระบบโมบายแบงกิ้งและเอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทยที่ขัดข้องในครั้งนี้ ส่งผลให้ลูกค้าที่ใช้บริการโมบายแบงกิ้งของธนาคารพาณิชย์อื่นๆ ไม่สามารถโอนเงินมายังบัญชีของธนาคารกสิกรไทยได้ จนส่งผลกระทบในวงกว้างเนื่องจากธนาคารกสิกรไทย มีฐานลูกค้าโมบายแบงกิ้งอันดับ 1 มีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 20%
นายสมคิด จิรานันตรัตน์ ประธานกสิกร บิซิเนสเทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เปิดเผยว่า ระบบโมบายแบงกิ้ง และเอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทยที่ขัดข้อง เกิดจากระบบเชื่อมต่อเครือข่าย (พอร์ต) บางส่วนมีปัญหาขัดข้อง ทำให้ต้องปิดระบบบางส่วนเพื่อแก้ไขและใช้เวลาไม่นาน แต่ในช่วงสิ้นเดือนมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการทำธุรกรรมการเงินมากกว่าปกติ 30 % ทำให้เกิดการสะสมและรอคิวเป็นจำนวนมาก ทำให้ระบบเกิดความล่าช้าและในเวลาประมาณ 11.00 น. ธนาคารเริ่มทยอยเปิดให้บริการโมบายแบงกิ้งและเอทีเอ็ม จนเปิดทำงานได้เต็มที่เวลา 12.00 น. กระทั่งเวลา 14.00 น. ประมาณธุรกรรมการเงินรอคิวอยู่ได้เคลียร์จนหมด เพื่อไม่เกิดปัญหาระบบโมบายแบงกิ้งและเอทีเอ็มของธนาคารล่มขึ้นมาอีก ธนาคารได้ขยายความสามารถการให้บริการช่วงสิ้นเดือนเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าตัว พร้อมทั้งทำระบบให้สามารถทำงานทดแทนกันผ่านหลายช่องทาง หากช่องทางใดอุปกรณ์มีปัญหาหรือเกิดล่มขึ้นมา ก็ใช้ช่องทางอื่นทำงานแทน เพื่อไม่ให้กระทบต่อการบริการโมบายแบงกิ้งและเอทีเอ็ม
...
ด้านนายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้บริหารสายงานดิจิทัลแบงกิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 31 ส.ค. ระบบโมบายแบงกิ้งของกรุงศรีก็เกิดปัญหา ช่วงสิ้นเดือนมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการโอนเงินและชำระเงินเป็นจำนวนมากกว่าวันปกติ 1 เท่าตัว เมื่อการโอนเงินข้ามธนาคารไม่ได้ ลูกค้าพยายามทำรายการใหม่ ส่งผลให้ข้อมูลที่เข้ามายังระบบเกิดการต่อคิวเป็นจำนวนมาก จนระบบเกิดความล่าช้า ในที่สุดธนาคารต้องตัดสินใจปิดระบบการให้บริการโมบายแบงกิ้ง และพยายามแจ้งให้ลูกค้าไปทำธุรกรรมการเงินผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ตแบงกิ้ง
เอทีเอ็ม และสาขา จนธนาคารเริ่มกลับมาเปิดให้บริการช่องทางโมบายแบงกิ้งอีกครั้งในเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน
ขณะที่สมาคมธนาคารไทยมีหนังสือชี้แจงว่า ปัญหาเหตุขัดข้องชั่วคราวที่เกิดกับบางธนาคาร ในวันที่ 31 ส.ค.2561 เกิดจากปริมาณธุรกรรมเกิดขึ้นจำนวนมากในช่วงเช้าและได้ส่งผลกระทบให้ลูกค้าไม่สามารถใช้ช่องทางการทำธุรกรรมในบางช่องทาง ทำให้มีลูกค้าบางท่านที่โอนเงินและมีการตัดบัญชีไปแล้ว แต่ปลายทางได้รับเงินช้ากว่าปกติหรือยังไม่ได้รับเงิน สมาคมธนาคารไทย ขอเรียนว่า เหตุการณ์นี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ ธนาคารส่วนใหญ่ทยอยแก้ไขเหตุขัดข้องดังกล่าว จนใช้งานได้ตามปกติแล้ว ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวและปลายทางไม่ได้รับเงิน ธนาคารจะรีบดำเนินการปรับปรุงบัญชีให้กับลูกค้าภายในวันที่ 1 ก.ย.
ขณะที่นายรณดล นุ่มนนท์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 31 ส.ค. มีเหตุการณ์ธนาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่งที่มีปริมาณธุรกรรมข้ามธนาคารจำนวนมากเกิดปัญหาระบบขัดข้อง ทำให้เกิดรายการค้างรอจำนวนมาก มีผลกระทบไปสู่ธนาคารหลายแห่งให้เกิดการสะดุดหรือล่าช้าในการทำธุรกรรม โดยเฉพาะบริการ mobile banking ธปท.ได้ติดตามการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องและให้ธนาคารเร่งแก้ไข รวมทั้งกันธนาคารดังกล่าวออกจากระบบกลาง เพื่อลดผลกระทบที่มีกับธนาคารอื่นให้สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนที่ได้ตกลงกันไว้ นอกจากการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้เร็วที่สุดแล้ว ธปท. ยังได้สั่งการธนาคารที่มีปัญหาให้มีแผนการยกระดับศักยภาพความสามารถในการให้บริการ เพื่อรองรับธุรกรรมที่จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 31 ส.ค. ระบบส่วนใหญ่ของธนาคารได้ทยอยเปิดให้บริการได้ตามปกติแล้ว
แม่ค้าขายเสื้อผ้าออนไลน์รายหนึ่ง เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 31 ส.ค. ได้เข้าไปตรวจสอบยอดเงินที่ลูกค้าโอนเข้ามาในบัญชีเป็นค่าซื้อสินค้าในแต่ละวัน ผ่านระบบเว็บไซต์ของธนาคารกรุงไทย เพื่อจะจัดส่ง สินค้าให้ลูกค้า ร้านเปิดช่องทางการโอนเงินผ่านบัญชีกับ 4 ธนาคารใหญ่ คือ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงเทพ ปรากฏว่าในวันนี้ ไม่สามารถเข้าระบบในบัญชีธนาคารกรุงไทยได้ มีข้อความแจ้งว่า “ขออภัยเนื่องจากขณะนี้มีผู้ใช้งานในระบบเป็นจำนวนมาก กรุณาทำรายการใหม่ภายหลัง” แต่อีก 3 ธนาคารในขณะนั้นเข้าตรวจสอบยอดเงินได้ปกติ
อีกรายนางสรัญญา จงใจหาญ ผู้ใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารกสิกรไทย บอกว่า หลังจากพยายามเข้าสู่ระบบออนไลน์ของธนาคารกสิกรไทยหลายครั้งเมื่อช่วงเช้าวันที่ 31 ส.ค. ไม่สามารถเข้าได้ พร้อมทั้งปรากฏข้อความ “ขออภัยค่ะ ระบบไม่สามารถทำรายการได้ในขณะนี้ กรุณาทำรายการอีกครั้ง” ต่อมาเมื่อลองทำรายการซ้ำๆ สามารถเข้าระบบได้สำเร็จ แต่ไม่สามารถทำรายการโอนจ่าย ทุกประเภทได้ ต่อมาลองทำรายการโอนเงินจากบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ให้บัญชีธนาคารกสิกรไทย ก็ยังไม่สามารถทำรายการได้เช่นกัน เข้าใจว่าระบบบัญชีของธนาคารกสิกรไทยน่าจะเกิดความขัดข้องอย่างแน่นอน ต้องรอเกือบครึ่งวันถึงทำธุรกรรมได้ปกติ หลายคนก็บ่นเช่นกัน เพราะส่งผลให้ธุรกิจหยุดชะงักไม่น้อย