ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญาสร้างความเสียหายมหาศาล ประเมินค่าไม่ได้ ที่ทางการสหรัฐอเมริกาจับตาดูสถานการณ์ของประเทศไทยมาต่อเนื่องกว่า 10 ปี ตั้งแต่ปี 2550 ไทยถูกจัดอยู่ใน กลุ่มประเทศถูกจับมองเป็นพิเศษ (Priority Watch List) หรือ PWL
มาในยุค พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ได้สั่งให้ทุกหน่วยงานในสังกัดปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างจริงจัง และเด็ดขาด
ทำให้สถานการณ์ลดลงในระดับบัญชีมาอยู่ใน กลุ่มประเทศที่ถูกจับตา (Watch List) หรือ WL
ดีขึ้นในสายตาทั่วโลก
ล่าสุด ประเทศสหรัฐอเมริกา โดย Mr.Vishal Amin ผู้ประสานงานด้านทรัพย์สินทางปัญญา ในฐานะผู้แทนประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และคณะ ประกอบด้วยตัวแทนจากกระทรวงยุติธรรม, กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ, สำนักงานสอบสวนกลาง หรือ FBI, สำนักงานทรัพย์สินทางปัญญา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
มาพบ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และคณะทำงาน เพื่อยกระดับความร่วมมือในการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งตำรวจไทยมีส่วนสำคัญในการจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์
ผบ.ตร.มอบให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการบูรณาการกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ เข้าปราบปรามอย่างหนัก 4 จุดที่พบการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา จุดแรกย่านมีนบุรี และหนองแขม จุดที่ 2 เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จุดที่ 3 พื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี และจุดที่ 4 ย่านสำเพ็ง เยาวราช
เป็นจุดหลักที่ขายสินค้าหนีภาษี
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์นำทีมตรวจค้นเป้าหมายกว่า 50 จุด จับกุมผู้ต้องหาได้ 22 คน ตรวจยึดสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาได้กว่า 29,000 ชิ้น รวมมูลค่าความเสียหายสูงถึง 13,363,200 บาท
...
ประสานความร่วมมือระหว่างสหรัฐอเมริกาและไทย ในการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างต่อเนื่อง
แก้ปัญหาที่ทางการสหรัฐอเมริกาจ่อ “แบนสินค้าไทย” จากการค้าขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์วางขายอยู่ทั่วไปในแหล่งท่องเที่ยว ตามที่ถูกหลายประเทศที่เป็นผู้ผลิตต้นแบบสินค้าเฝ้าจับตามองมาโดยตลอด
ด้วยผลงานที่ทำจริงจัง และต่อเนื่องในพื้นที่ล่อแหลมที่ไม่เคยทำกันมาก่อนในยุค คสช.
ช่วยลดภาพลบของเมืองไทยที่ถูกมองเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์
สินค้าปลอมลอกเลียนแบบ.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th