วิพากษ์วิจารณ์กันมากมายในสังคม เมื่อเจ้าหน้าที่สรรพสามิตบุรีรัมย์ จับกุมหญิงวัย 60 กลางตลาดนัดคลองถม สี่แยกกระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ขณะกำลังนั่งขายข้าวหมาก จนเป็นประเด็นดราม่าว่าเจ้าหน้าที่กระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่? สุดท้ายความจริงปรากฏ เกิดจากความผิดข้อหาจำหน่ายสาโทโดยไม่ได้รับอนุญาต เจอโทษปรับ 1 หมื่นบาท

สำหรับสาโท เป็นผลิตภัณฑ์สุราแช่ มีทั้งสุราผลไม้ สุราแช่พื้นเมือง และผลิตภัณฑ์จากผลผลิตทางการเกษตรนำไปหมักกับเชื้อสุรา ให้มีแรงแอลกอฮอล์ไม่เกิน 15 ดีกรี ซึ่งการจะจำหน่ายอย่างกรณีหญิงวัย 60 ต้องยื่นคำขออนุญาตต่อเจ้าพนักงานสรรพสามิต ขณะที่ข้าวหมาก หลายคนคงสงสัย เป็นประเภทเดียวกับสุราแช่ หรือไม่?

ด้าน นายสมบูรณ์ แก้วเกรียงไกร นายกสมาคมสุราชุมชน เปิดเผยกับไทยรัฐออนไลน์ ว่า ข้าวหมากเป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน ไม่ใช่สุราแช่ สามารถจำหน่ายได้ไม่มีความผิด ทำจากข้าวเหนียว มีการหมักด้วยลูกแป้งข้าวหมัก หรือที่เรียกว่าแป้งยีสต์ ใช้ระยะเวลาหมัก 3-7 วัน จนแอลกอฮอล์แรงขึ้น มีปริมาณแอลกอฮอล์ 4-5 ดีกรี หรือสูงสุด 12 ดีกรี ขึ้นอยู่กับระยะเวลาหมัก ซึ่งวิธีทำง่ายๆ ใช้ข้าวเหนียวประมาณ 1 กิโลกรัม ต่อลูกแป้งข้าวหมัก 2-5 ลูก หากใส่ลูกแป้งหมักมากกว่านี้ ไม่มีประโยชน์ ไม่มีผลต่อปริมาณแอลกอฮอล์ เพื่อให้ดีกรีแรงขึ้น

“เดิมข้าวหมาก ผิดกฎหมาย แต่เมื่อประมาณ 7-8 ปี กลุ่มของพวกตน ได้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ และในที่สุดได้วินิจฉัยให้ถอดแป้งข้าวหมาก ออกจาก พ.ร.บ.สุราฯ ไม่ใช่ลูกแป้งที่มีเชื้อสุรา เพราะละเมิดภูมิปัญญาชาวบ้าน และละเมิดสิทธิทำมาหากินโดยสุจริต ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 50 และมาตรา 46 จึงถือเป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน ทำกินที่บ้าน หรือขายก็ไม่ผิด”

...

ส่วนสาโท มีกรรมวิธีทำเหมือนข้าวหมาก ใช้ข้าวเหนียวมาคลุกด้วยลูกแป้ง แต่จะใส่น้ำผสมในการหมัก ซึ่งปกติในการทำข้าวหมากจะไม่ใส่น้ำลงไป โดยน้ำข้าวหมากจะออกมาเอง แตกต่างกับสาโทต้องใส่น้ำเพื่อให้ได้น้ำสาโท เหมือนกรณีของหญิงวัย 60 ที่ถูกจับ หากจะบอกว่าไม่เจตนาทำสาโทก็คงไม่ใช่ ถือมีความผิด ดังนั้นการจะทำสาโท ดื่มเองในบ้านอย่างที่หลายๆ คนคิดว่าไม่ผิดนั้นคงไม่ใช่ ก็มีความผิดเช่นกัน เพราะกฎหมายห้ามผลิต หากไม่มีใบอนุญาต รวมถึงห้ามจำหน่าย หากมีใบอนุญาตให้จำหน่าย อย่างกรณีของหญิงวัย 60 โดนหลายข้อหา

ขณะที่ดราม่าเจ้าหน้าที่สรรพสามิตจับกุมหญิงวัย 60 นำมาสู่การตั้งคำถามอีกว่า ทำไม? สองมาตรฐาน ไม่จับพวกขายไวน์ผลไม้ นั้น หากมีใบอนุญาตผลิต และจำหน่ายถือว่าไม่มีความผิด อย่างกรณีตั้งบูธขายในงานต่างๆ จำเป็นต้องมีใบอนุญาต หรืออย่างน้อยต้องมีใบอนุญาตจำหน่ายชั่วคราว สามารถไปยื่นขอต่อกรมสรรพสามิต ระบุวันเวลาสถานที่จำหน่ายให้ชัดเจน

จากเคสหญิงวัย 60 เมื่อรู้ข้อหาการถูกจับ หลายฝ่ายที่วิพากษ์วิจารณ์น่าจะเข้าใจมากขึ้น และหยุดดราม่ากับสังคมไทย เหตุใดเจ้าหน้าที่มักเอาผิดกับคนจน ไม่มีโอกาส คงต้องติดตามกันต่อไปกับคำถามมากมายที่เกิดขึ้น เพราะสุดท้ายแล้วกฎหมายสุรา น่าจะเอื้อให้กับกลุ่มนายทุนมากกว่า กับข้อสงสัยใบอนุญาตผลิตสุราชุมชน สามารถผลิตเบียร์ได้เช่นกัน แต่ทำไมไม่มีการผลิต ก็เนื่องจากกฎหมายระบุต้องผลิตให้ได้ 1 แสนลิตรต่อเดือน ซึ่งดูแล้วเป็นไปไม่ได้แน่ๆ.