เรื่องของป่ากับการอนุรักษ์ บนความขัดแย้งของผลประโยชน์ทำให้ผู้รับผิดชอบ ในตำแหน่งอธิบดี ไม่ว่าจะเป็น อธิบดีกรมป่าไม้ หรือ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ต้องประสบกับวิบากกรรมโดยทั่วหน้ากัน

ในอดีตอธิบดีหลายคน ต้องถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทางหนึ่งต้องปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายของรัฐบาลและคำสั่งของ รมต.ว่าการกระทรวง อีกทางหนึ่งก็ต้องทำหน้าที่ในการดูแลรักษาป่าไม้ทรัพยากรธรรมชาติให้ดีที่สุด ซึ่งบางครั้งการปฏิบัติงานก็ไม่สอดคล้องกันไปเหยียบตาปลาใครเข้าเดือดร้อนทันที

ยกตัวอย่างในอดีต อธิบดีบางท่านอาจตั้งใจทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแต่ รมต. หรือนักการเมือง ต้องการแสวงหาผลประโยชน์จากป่า ถ้าไม่ปฏิบัติตามก็จะถูกลงโทษทางวินัยถูกโยกย้ายโดยอ้างว่าเพื่อความเหมาะสมบ้าง ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาบ้าง บางคนก็ถูกยัดข้อหาอาญาร้ายแรง ทั้งๆที่ในท้ายที่สุดเมื่อความจริงปรากฏตามกระบวนการยุติธรรม รมต. หรือนักการเมือง เป็นผู้ร้ายตัวจริง

มีการหยิบยกคุณงามความดีของอดีตอธิบดีกรมป่าไม้บางคน มาเพื่อเสียดสีเปรียบเทียบกับ อธิบดีในยุคปัจจุบัน ต้องการชี้นำให้เห็นถึงแง่ลบ ภาพลักษณ์ที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งความไม่ชอบมาพากลในการทำงาน ผลงานไม่เป็นที่ประทับใจ ความไม่โปร่งใสในการใช้จ่ายงบประมาณชนิดเหวี่ยงแหไปเรื่อย

การวิพากษ์วิจารณ์สร้างเรื่องใส่ร้ายโจมตีข้าราชการที่บริสุทธิ์เหล่านี้จะเป็นเพราะเจตนาอื่นแอบแฝงหรือไม่ก็ตาม ทำให้ผู้บริหารยุคปัจจุบันต้องถูกสังคมจับตาโดยไม่เป็นธรรม ถ้าจะพูดกันอย่างตรงไปตรงมา การสร้างเรื่องร้องเรียนผู้บริหารในกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรือกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งก็เพื่อให้เกิดการโยกย้าย ฝ่ายการเมืองต้องการจะเอาคนของตัวเองขึ้นมาหรือไม่เป็นอีกเรื่อง แต่ต้องมองถึงเนื้องานและการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายบริหารด้วยว่ามีผลงานและการทำงานมีประสิทธิภาพเป็นประโยชน์กับแผ่นดินหรือไม่

...

อย่างเช่นการทำงานของหน่วยงานต่างๆสามารถที่จะบูรณาการและ เพิ่มพื้นที่ป่า ได้ถึงร้อยละ 25 มีการวางระบบงานและนโยบายขับเคลื่อน ให้มีป่าครบจำนวน ที่ตั้งเป้าเอาไว้ในปีนี้ หรือ การจัดเก็บและใช้จ่ายงบประมาณ ในการพัฒนาป่าอนุรักษ์อย่างโปร่งใส โดยเฉพาะตำแหน่งต่างๆในกรม เป็นไปตามระเบียบขั้นตอนการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการทุกอย่างตามคำสั่งของ คสช.อย่างเคร่งครัด ไม่มีเสียงร้องเรียนเหมือนสมัยที่นักการเมืองเข้ามาบริหารด้วยซ้ำไป ตรงกันข้ามผู้บริหารได้ให้ความสำคัญกับผู้ใต้บังคับบัญชามีการตั้ง มูลนิธิผู้พิทักษ์ป่า เพื่อขับเคลื่อนการทำงานให้มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง

การใช้หน้าสื่อ หรือการวิพากษ์วิจารณ์ในฐานะอดีตนักการเมืองเพื่อผลประโยชน์ หรืออคติส่วนตัวอย่างเดียว โดยเฉพาะใกล้ฤดูการแต่งตั้งโยกย้ายจะเกิดเรื่องทำนองนี้ขึ้นมาเสมอ ทองแท้ไม่แพ้ไฟ ความจริงก็คือความจริง

เพชรก็คือเพชรวันยังค่ำ.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th