ช่วงนี้ตั้งแต่ 10 ส.ค.-15 ส.ค. ไทยมีฝนตกหนัก หลายพื้นที่ 37 จังหวัด เสี่ยงเกิดน้ำท่วม ทั้งภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ กลาง ตะวันออก และใต้ ดังนั้นเพื่อเตรียมพร้อมรับมือหากเกิดเหตุการณ์ขึ้น ทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้แนะวิธีปฏิบัติตน ในการดำเนินชีวิตช่วงหน้าฝนให้ปลอดภัย โดยเฉพาะบริเวณที่ราบลุ่ม ที่ลาดเชิงเขา และริมฝั่งแม่น้ำ
1. ติดตามข้อมูลสถานการณ์ภัย อาทิ พยากรณ์อากาศ ประกาศเตือนภัย ปริมาณน้ำฝน และระดับน้ำทะเลหนุน
2. หมั่นสังเกตความผิดปกติทางธรรมชาติ อาทิ ฝนตกต่อเนื่อง ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น น้ำมีสีขุ่นข้น เพื่อจะได้อพยพหนีภัยอย่างทันท่วงที
3. เก็บกวาดขยะ และกำจัดวัชพืชไม่ให้อุดตันท่อระบายน้ำ เพื่อให้น้ำไหลผ่านได้โดยสะดวก
4. วางกระสอบทรายเป็นแนวคันกั้นน้ำ พร้อมตรวจสอบให้อยู่ในสภาพมั่นคงและแข็งแรงอยู่เสมอ
5. วางแผนอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย โดยกำหนดจุดปลอดภัยที่พ้นจากระดับน้ำท่วมในหลายเส้นทาง พร้อมเข้าร่วมการฝึกอพยพ
6. หากเกิดน้ำท่วม กรณีอาศัยอยู่ในบ้านเรือน ให้ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ให้พ้นจากระดับน้ำท่วมถึง และอพยพสัตว์เลี้ยงและเคลื่อนย้ายยานพาหนะไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ปิดสวิตช์ไฟ และสับคัตเอาต์ เพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้ารั่ว ทำให้ถูกไฟฟ้าดูด ห้ามใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าขณะร่างกายเปียกชื้น หรืออยู่บริเวณพื้นที่ชื้นแฉะ เพราะอาจถูกไฟฟ้าดูด
7. กรณีต้องอพยพออกจากพื้นที่ ให้อพยพไปตามเส้นทางที่ปลอดภัย ไม่เป็นเส้นทางไหลของน้ำหรือแนวดินถล่ม ไม่เดินข้ามลำน้ำที่มีระดับน้ำท่วมสูง และกระแสน้ำไหลเชี่ยว เพราะอาจถูกน้ำพัด ทำให้จมน้ำเสียชีวิต ห้ามขับรถผ่านบริเวณที่มีน้ำท่วมสูง เพราะความแรงของกระแสน้ำอาจพัดรถจมน้ำ
8. ข้อควรปฏิบัติเมื่อต้องเดินทางผ่านเส้นทางน้ำท่วม ใช้ไม้สำรวจเส้นทาง เพื่อป้องกันการพลัดตกท่อระบายน้ำ สวมใส่รองเท้าบูต เพื่อป้องกันอันตรายจากสัตว์มีพิษและของมีคม หาวัสดุที่ลอยน้ำได้ยึดเกาะ อาทิ แกลลอน ยางในรถยนต์ จะช่วยป้องกันการจมน้ำ ไม่เดินลุยน้ำในช่วงกลางคืน เพราะเสี่ยงต่อการพลัดตกน้ำ กรณีเดินทางช่วงกลางคืน ให้ใช้ไม้สำรวจเส้นทาง และใช้ไฟฉายส่องนำทาง
...
9. ข้อควรระวังเพื่อป้องกันภัยในช่วงน้ำท่วม ไม่ประกอบกิจกรรมบริเวณที่มีน้ำท่วมสูง และกระแสน้ำไหลเชี่ยว เพื่อป้องกันกระแสน้ำพัด หรือเป็นตะคริว ทำให้จมน้ำเสียชีวิต
10. ระมัดระวังสัตว์มีพิษที่อาจหนีน้ำเข้ามาอาศัยในบ้าน โดยเฉพาะบริเวณใต้ตู้ รองเท้า ผ้าเช็ดเท้า ไม่เข้าใกล้แนวเสาไฟฟ้า และสัมผัสวัตถุที่เป็นสื่อนำไฟฟ้า เพราะหากมีกระแสไฟฟ้ารั่ว จะทำให้ถูกไฟฟ้าดูดเสียชีวิต.