“หน้าฝน” กับ “น้ำท่วม” เป็นของคู่กัน เหมือนน้ำพริกคู่ปลาทู

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ เอาสถิติปริมาณน้ำ 35 เขื่อนหลักล่าสุดไปรายงานในที่ประชุม ครม.

สถิติชี้ว่าปริมาณน้ำในเขื่อนเมื่อสิ้นเดือนกรกฎาคมปีนี้ สูงกว่าปริมาณน้ำในเขื่อนในปี 2554 ซึ่งเกิดมหาวิบัติภัยน้ำท่วมใหญ่วินาศสันตะโร

โอ้แม่เจ้า...ฟังแล้วน่าตกใจ

“แม่ลูกจันทร์” ยืนยันว่าสถิติน้ำในเขื่อนที่ “พล.อ.ฉัตรชัย” เปิดเผยเป็นเรื่องจริง

แต่...สถานการณ์น้ำปีนี้กับปี 2554 มีข้อแตกต่างถึง 4 ประการ

1,ปริมาณน้ำเก็บใน 2 เขื่อนสำคัญของประเทศ คือ เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ ปีนี้ยังน้อยกว่าปี 2554 เกือบ 20 เปอร์เซ็นต์

2,ปริมาณฝนตกปีนี้อยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยปกติ แต่ปริมาณฝนตกปี 2554 สูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยถึง 35 เปอร์เซ็นต์

3,ฝนปีนี้ตกเป็นปกติตามฤดูกาล แต่ปี 2554 ฝนมาเร็วกว่าปกติ เริ่มกระหน่ำตั้งแต่เดือนมีนาคม ถล่มยาวจนถึงเดือนพฤศจิกายน

4, ปีน้ำท่วมใหญ่ 2554 มีพายุโซนร้อนโจมตีถึง 5 ลูกซ้อนกัน ได้แก่ พายุไหหม่า พายุนกเตน พายุไห่ถาง พายุเนสาด และพายุนาลแก

แต่ปีนี้ยังไม่มีพายุโซนร้อนแหย็มเข้าเมืองไทยแม้แต่ลูกเดียว!

“แม่ลูกจันทร์” เอาข้อมูลสถิติมาเทียบให้เห็นชัดๆ เพื่อให้พี่น้องประชาชนคลายความกังวลว่าปีนี้จะเกิดมหาวิกฤติน้ำท่วมระเบิดเถิดเทิง

อย่างไรก็ตาม...ผลกระทบจากสภาวะโลกร้อน ทำให้ดินฟ้าอากาศวิปริตแปรปรวนรุนแรงหนักขึ้นทุกปี

ปัจจัยนี้ก็เป็นเรื่องไม่ควรประมาทด้วยประการทั้งปวง

ข้อสำคัญ...คาดล่วงหน้าไม่ได้ว่าใน ช่วง 3 เดือนจากนี้ไปจะไม่มีพายุโซนร้อน สะเวิ้ปเข้าเมืองไทยแม้แต่ลูกเดียว??

สมมติว่าเดือนตุลาคมเกิดมีพายุโซนร้อนจากทะเลจีนใต้เลี้ยวเข้ามาเมืองไทย 2 ลูก หรือ 3 ลูกติดต่อกัน

...

โอกาสจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ระดับน้องๆ ปี 2554 ก็มีสิทธิเกิดขึ้นได้เหมือนกัน

แถมบังเอิญปีนี้ครบรอบ 7 ปีน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 พอดี

มีสถิติบ่งชี้ว่าทุกๆ 7 ปี จะเกิดวิบัติภัยธรรมชาติรุนแรงในเมืองไทย

อืมม์...ฟังแล้วมันก็เสียวๆนะโยม

“แม่ลูกจันทร์” จึงเห็นด้วยที่ “นายกฯ บิ๊กตู่” สั่งเปิด “ศูนย์เฉพาะกิจติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง” มอบให้ รองนายกฯ พล.อ.ฉัตรชัย มีอำนาจตัดสินใจสั่งการแก้ปัญหาเร่งด่วนฉุกเฉินได้ทุกกรณี

ศูนย์เฉพาะกิจติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเหตุน้ำท่วมปุบปับฉับพลัน

และช่วยบริหารจัดการปริมาณน้ำในเขื่อนให้อยู่ในระดับปลอดภัย

“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่าสถานการณ์น้ำในเขื่อนหลักๆยังอยู่ในระดับ เฝ้าระวัง

ยกเว้น เขื่อนแก่งกระจาน เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนน้ำอูน ที่น้ำเกือบเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์

แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ แม่น้ำโขง ที่สูงพรวดๆอย่างรวดเร็ว

เหลืออีกไม่ถึงครึ่งเมตร น้ำโขงจะทะลักท่วมหนองคาย นครพนม มุกดาหาร บึงกาฬ ฯลฯ

ต้นเหตุ เกิดจากพี่ใหญ่จีนที่อยู่เหนือน้ำเทน้ำลงมาไม่บันยะบันยัง ทำให้ไทย พม่า ลาว ซึ่งอยู่ท้ายน้ำเดือดร้อนกันระนาว

แต่พอถึงหน้าแล้ง พี่ใหญ่จีนก็กักน้ำโขงไว้ผลิตกระแสไฟ

ปล่อยน้ำลงมาข้างล่างแค่เยี่ยวแมว

เป็นอย่างนี้มาแล้วหลายปี และก็จะเป็นอย่างนี้ตลอดไป.

"แม่ลูกจันทร์"