เงียบไปพักใหญ่ สำหรับคดีลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์มากำจัดในประเทศอย่างผิดกฎหมายของนายทุนเลวบางคน เบื้องต้นส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติ

คดีนี้ผมเคยเชียร์ให้กวาดล้างให้หมด เพราะทำให้เกิดมลพิษฟุ้งกระจายไปทั่ว ทั้งทางดิน น้ำ และอากาศ ส่งผลร้ายไปถึง
รุ่นลูกรุ่นหลาน!

ถึงขณะนี้มีบางคดีจะครบฝากขังแล้ว ก้นมันก็จะร้อนๆหน่อย...

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2561 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.เลยเซ็นคำสั่ง ตร.ที่ 412/2561 ตั้งพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีขยะอิเล็กทรอนิกส์ ระบุให้ พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข ผบก.ปทส. เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน พล.ต.ต.นราเดช กลมทุกสิ่ง ผบก.กองสวัสดิการ เป็นรองหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน คณะพนักงานสอบสวน 15 นาย ตั้งแต่ระดับรอง ผบก.-สว. คณะพนักงานสืบสวนอีก 31 นาย ตั้งแต่ระดับ ผบก.-ส.ต.ท. แถมฝ่ายอำนวยการและสนับสนุนมาให้อีก 18 นาย ตั้งแต่ พ.ต.อ.-ส.ต.ท.

ในหนังสือคำสั่งกำชับด้วยว่า ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จอย่างรวดเร็ว?!?

เพราะถ้าคดีนี้ถูกปล่อยให้ฟ้องผู้ต้องหาไม่ทันเหมือนบางคดี จนต้องปล่อยผู้ต้องหาเป็นอิสระ คงงามหน้ากันทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีก!

ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องขยายผลหา “ไอ้โม่ง” ที่ปล่อยขยะพิษจำนวนมหาศาลเข้ามาในประเทศ?!

ด้วยระยะเวลาที่มันกระชั้นชิดแบบนี้ แถมไม่มีชื่อพนักงานสอบสวนเดิมของท้องที่เกิดเหตุ ที่รู้ตื้นลึกหนาบางของคดีตั้งแต่ต้นอยู่ในคณะแม้แต่คนเดียว?

คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนชุดใหม่นี้ จึงเหมือนรับเผือกร้อน ต้องศึกษาคดีใหม่ทั้งหมด!

ก็ได้แต่ให้กำลังใจคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนทุกคน ให้ลุยถั่วเอาคนผิดมาลงโทษให้จงได้...

ถ้าให้ดีช่วยขยายผลหาตัวผู้ร่วมขบวนการที่อยู่หลังฉาก ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหน? ทั้งนายทุนและเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้ามาเกี่ยวข้อง!

...

อ้อ เกือบลืม...ในคำสั่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ระบุด้วยว่า มอบหมายให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.เป็นผู้ควบคุม กำกับ ดูแลการสืบสวนสอบสวนอีกที

ทำไมไม่เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนเองเลยเหมือนคดีแชร์ยูฟันก็ไม่รู้?

สหบาท