เป็นงานต่อเนื่องที่กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวขยายผลจับกุมชาวต่างชาติปลอมแปลงบัตรประชาชน สวมสิทธิ์คนไทยเข้ามาทำธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว มาแย่งอาชีพคนไทย สร้างความเสียหายแก่ระบบท่องเที่ยว

ที่น่าสังเกตว่า ข่าวกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และกองบังคับการตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ตามจับชาวต่างชาติมาสวมบัตรคนไทย มีแทบทุกเดือน แต่จับเท่าไหร่ยังไม่หมด ความผิดยังมีเกิดขึ้นตลอด

เพราะการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจับกุมเป็นเรื่องที่ปลายเหตุ

หน่วยงานต้นเหตุคือ ฝ่ายปกครอง ยังไม่ได้คิดแก้ไข หรือปรับปรุงระบบการออกบัตรประชาชน

ปล่อยให้มีการสวมบัตรประชาชน

สถานที่เปิดให้ชาวต่างชาติเข้ามาทำบัตรประชาชนคนไทย มีไม่กี่แห่งที่เป็นข่าวถูกจับ จะเป็นด้วยความบกพร่อง ปล่อยปละละเลย หรือไม่สนใจ แต่พอมีการขยายผลจับกุมเรื่องเงียบหายไป และมาเป็นข่าวเกิดซ้ำมาอีก

ล่าสุดที่เห็น พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. แถลงข่าวจับกุมนายเจิ้ง อายุ 49 ปี สัญชาติจีน มีพฤติการณ์สวมบัตรประชาชนของ นายพะจคา สิงขรผล ตั้งแต่ปี 2542 จนถึงปัจจุบัน

มี น.ส.ชัญญ์ชญา แซ่จี๋ ภรรยา เป็นผู้รับรองในการสวมบัตรประชาชน

ฝ่ายสืบสวนรวบรวมข้อมูลหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับต่อศาล ได้เข้าจับกุมตัวนายเจิ้ง ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาสวมบัตรประชาชนของผู้อื่น

จับกุม น.ส.ชัญญ์ชญา ตามหมายจับศาลอาญาฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของนายเจิ้ง

แต่ที่น่าสนใจประวัติของ น.ส.ชัญญ์ชญา เป็นกรรมการ 3 บริษัท คือ บริษัท นิวฟู่หัวทัวร์ กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัท ฟู่หวา แทรเวล และ บริษัท ฮวง เฉียว ทัวร์

ตำรวจท่องเที่ยว นำหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจบริษัทร่วมกับ กรมการท่องเที่ยว กรมสรรพากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

...

ถ้า พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ไม่สั่งให้ตำรวจท่องเที่ยวเข้ามาดำเนินการจริงจัง คงไม่มีใครสงสัยพฤติกรรมของนายเจิ้ง และภรรยาที่สวมบัตรประชาชนกระทำความผิด มาตั้งแต่ปี 2542

สวมบัตรเปิดบริษัทนำเที่ยวได้ถึง 3 บริษัท

ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการจับกุม กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวขยายผลจับกุมมาตลอด แต่ดูเหมือนหน่วยงานที่ควรจะรับผิดชอบยังไม่ขยับทำอะไร ทั้งที่มีปัญหาตามมาหลายเรื่องคนต่างด้าวสวมบัตรประชาชนคนไทย

ปัญหาเกิดมานาน แต่ไม่เคยแก้ไข.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th