ฝนเททั่วไทยมาตั้งแต่ก่อนเข้าฤดูฝน สำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) กรมชลประทาน เร่งตรวจเช็กอ่างเก็บน้ำตั้งแต่หัววัน...ที่นักวิชาการด้านน้ำทำนายไว้ท่าจะเป็นจริง
ปีนี้น้ำมีสิทธิ์จะท่วมและตามด้วยแล้งจัดที่จะเกิดถี่ขึ้น เพราะโลกร้อน
เกษตรกรไทยต้องหากินกันลำบากมากขึ้น จะอยู่กันอย่างไร...เป็นปัญหาที่ต้องขบคิด
เพราะน้ำเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญในการดำรงชีวิตและทำมาหากิน
ครั้นจะพึ่งทางการ หวังระบบชลประทานมีทั่วถึง...ชาตินี้คงได้แต่ฝัน
ข้อมูล สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร บ้านเรามีพื้นที่เกษตรอยู่ในเขตชลประทาน 17.1% ที่เหลือ 83% หรือ 128 ล้านไร่ ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับชลประทานเลยสักนิด
เกษตรกรส่วนใหญ่เลยต้องพึ่งพาแต่ฟ้าฝนเป็นหลัก...แม้แต่ในเขตชลประทานยังต้องชะเง้อคอรอคอยจะเปิดน้ำให้ตอนไหน
ฉะนั้น หนทางออกที่ดีที่สุดจะอยู่รอดได้...ต้องมีแหล่งน้ำเป็นของตัวเอง หรือของชุมชน แล้วบริหารจัดการร่วมกัน
บ้านเราใช่จะมีแต่น้ำในเขื่อน อ่างเก็บน้ำผิวดินเท่านั้น...ยังมีน้ำใต้ดินให้เลือกใช้ได้มากถึง 1.13 ล้านล้าน ลบ.ม. แต่ที่นำมาใช้ได้โดยไม่เกิดผลกระทบข้างเคียงมีอยู่ 45,385 ล้าน ลบ.ม.
นำมาใช้โดยไม่ต้องกลัวน้ำใต้ดินจะหมด เพราะแต่ละปีน้ำฝนจะไหลลงมาเติมน้ำใต้ดิน 72,987 ล้าน ลบ.ม.
นอกจากนั้น ศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้ข้อมูลอีกว่า ทั่วประเทศไทยมีแหล่งน้ำขนาดเล็กตามธรรมชาติอีก 31,365 แห่ง ที่ถูกทิ้งร้างจนตื้นเขิน บ้างก็กลายเป็นพื้นที่ทิ้งขยะ...สามารถนำมาปรับปรุงฟื้นฟูให้เป็นแหล่งเก็บน้ำสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้ผืนแผ่นดินนี้ได้
ไม่รู้ว่าข้อมูลเหล่านี้พอจะมีประโยชน์ให้หน่วยงานภาครัฐ ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และองค์กรท้องถิ่น สนใจนำมาทำประโยชน์สุขให้กับเกษตรกรได้แค่ไหน.
...
สะ-เล-เต