การจัดอันดับมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ในฟาร์ม (BBFAW) 110 บริษัทจาก 18 ประเทศ ประจำปี 2017 โดยองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Animal Protection)...หนึ่งในนั้น บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ติดโผรวมอยู่ด้วย
ถูกจัดอยู่ในลำดับขั้นที่ 5 (1 ขั้นที่ดีที่สุด 6 แย่ที่สุด) ถือเป็นข่าวดีสำหรับซีพีเอฟ ที่สามารถไต่ระดับพ้นจากขั้นสุดท้ายของการจัดอันดับมาตรฐานระดับโลกเรื่องสวัสดิภาพสัตว์ในฟาร์ม
นายสมศักดิ์ สุนทรนวภัทร ผู้จัดการฝ่ายรณรงค์โครงการองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย แจงที่มาของการเลื่อนขยับชั้นขึ้นมาของซีพีเอฟ เนื่องจากมีการเริ่มต้นนโยบายยกเลิกการใช้คอกกักขัง ในระบบปิดต่อสัตว์ในฟาร์มทั้ง สุกร แม่ไก่ และไก่เนื้อ
โดยมีแผนการที่จะหยุดใช้ซองกักขังสัตว์ภายในปี 2568 สำหรับการเลี้ยงสัตว์ในประเทศไทย...ส่วนการเลี้ยงสัตว์ในประเทศอื่นๆ ซีพีเอฟจะหยุดเลี้ยงยืนซองให้ได้ภายในปี 2571
เหตุผลที่องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกให้ความสำคัญในเรื่องการเลี้ยงสัตว์ในคอกกักขัง...เนื่องจากสัตว์ไม่ต่างไปจากคนเรา หากได้รับการเลี้ยงดูให้อาหารที่กินไม่อร่อย อยู่ไม่ดี ไม่มีความสุข ย่อมส่งผลต่อสุขภาพสัตว์ ทำให้เกิดโรคเจ็บป่วยได้ง่าย สุดท้ายต้องพึ่งยารักษา
คนกินยามีระยะเวลาเว้นห่างกระทั่งหายป่วย...แต่สัตว์ที่ได้รับยา โดยเฉพาะยาปฏิชีวนะบางกลุ่ม กินเข้าไปกว่าจะหมดฤทธิ์ บางครั้งถึงเวลาจับส่งเข้าโรงเชือด ฤทธิ์ยายังไม่หมด ส่งผลทำให้เกิดสารตกค้างท้ายสุดทุกอย่างมาตกอยู่ที่ผู้บริโภค
ไม่เพียงซีพีเอฟจะได้ให้คำมั่นสัญญาจะเลิกเลี้ยงสัตว์แบบยืนซอง แต่ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมายังทำตามคำสัญญาอย่างเคร่งครัด ทั้งหลีกเลี่ยงการจำกัดสัตว์ไว้ในระบบปิดและแออัด หลีกเลี่ยงการตัดต่อพันธุกรรมและโคลนนิง และมีมาตรฐานขั้นตอนต่างๆ เพื่อให้สัตว์ไม่รู้สึกทรมาน กระทั่งผ่านการประเมินจาก BBFAW...นอกจากนั้นยังให้ฟาร์มที่มีสัญญากับบริษัทยุติการทำฟาร์มปศุสัตว์แบบยืนซองด้วย
...
ส่วนค่ายเบทาโกรก็เช่นกัน ได้ให้คำสัญญาจะหยุดกักขังแม่สุกรอุ้มท้องและระหว่างคลอดลูก ให้ได้ภายในปี 2570.
สะ–เล–เต