คนไทยรู้จักปลูกข้าว กินข้าวมาแต่ดึกดำบรรพ์ ตกมาถึงวันนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเรายังมีปัญหาในเรื่องเก็บข้าวไว้กินไม่เป็น
ข้าวสารซื้อมาเก็บได้ไม่นาน เจอมอด-แมลงกัดกินทั้งในถุงและในถัง
ข้าวสวย หุงด้วยหม้อไฟฟ้าทันสมัย ทิ้งไว้นานข้าวแห้งกรังหรือไม่ก็บูดเสีย
เป็นปัญหาที่เจอกันทุกบ้าน รู้ไหมวิธีที่ถูกต้องเขาทำกันอย่างไร... พลรชฏ เปียถนอม ที่ปรึกษา บริษัทไทยออแกนิควิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด บริษัทผู้ผลิตข้าวสุกหนึ่งเดียวของไทยที่ส่งไปสหรัฐอเมริกาได้ให้ความรู้ตามหลักวิทยาศาสตร์
ข้าวเปลือก เมื่อนำไปสีเป็นข้าวสารเรียบร้อยแล้ว ถ้าเก็บไว้ในถุง ในถังข้าวสาร วางทิ้งไว้ข้างนอกหรือใส่ในตู้ หนีไม่รอดที่จะมีมอด-แมลง เข้าไปกัดกินได้ง่ายๆ เพราะในข้าวสารจะมีไข่มอดแมลงปนมาอยู่แล้ว
วิธีเก็บข้าวสารที่ดีที่สุด ควรใช้วิธีใส่ถุงแวคคัมหรือถุงสุญญากาศ...ไข่ไม่เจออากาศและความชื้นจะฝ่อไปเอง
แน่นอนบ้านทั่วไปที่ไหนจะมีเครื่องแวคคัม ดังนั้นควรเปลี่ยนมาใช้วิธีนำข้าวสารเทใส่ถุงพลาสติก ขวดพลาสติก หรือกล่องพลาสติก ปิดฝาให้สนิท อย่าให้มีอากาศเข้าไปได้ แล้วนำไปใส่ตู้เย็น ช่องธรรมดา ช่องไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องแช่ช่องฟรีซ เพราะแค่เก็บไว้ในอุณหภูมิต่ำกว่า 10 ํC ไข่มอดแมลงหยุดการฟักตัว เลยไม่มีมอดแมลงมาให้เห็น
เพียงเท่านี้ เราจะได้ข้าวสารยังมีความหอมคงอยู่ได้นาน 1–2 ปี
ข้าวสวยหุงจนสุก กินไม่หมด คนส่วนใหญ่มักจะใส่ถุง ใส่กล่องพลาสติกเก็บไว้ในตู้เย็น ก่อนจะนำมาเปิบต้องนำเข้าไมโครเวฟ ส่งผลให้ข้าวสวย กลายเป็นข้าวแข็งๆ บางทีเละๆ ไม่น่ารับประทาน แถมรสชาติยังเพี้ยน
วิธีการที่ดีในการเก็บข้าวสวย ควรใส่กล่องปิดฝาให้สนิทและซีลด้วยพลาสติกเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีอากาศเข้าไปได้ และวางไว้ในอุณหภูมิปกติ แต่อย่าให้มีแสงแดดส่องถึง หรือในที่ที่มีอากาศร้อน...ไม่ต้องนำไปแช่ตู้เย็นแต่อย่างใด เพราะทำให้ข้าวแข็ง เสียรสชาติ ยิ่งถ้าเอาไปพรมก่อนเวฟ ข้าวเละแฉะไม่น่ากิน
...
ทำเพียงแค่นี้สามารถเก็บข้าวสวยไว้ได้นาน 2-3 วัน...แต่หนทางที่ดีที่สุด ได้ข้าวหอม รสชาติดี ควรหุงกินแต่พอมื้อ.
สะ–เล–เต