อาทิตย์ก่อน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจปฏิบัติการปราบปรามการค้างาช้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศงช.ตร.) และประธานคณะอนุกรรมการด้านการกำกับดูแลและบังคับใช้กฎหมาย ตามแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งประเทศไทย ยิ้มแก้มแทบปริ?
เมื่อ ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำโดย พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข ผบก.ปทส. จับกุมเครือข่ายค้างาช้างรายใหญ่
เรื่องราวเริ่มต้นจากเจ้าหน้าที่ กรมศุลกากร ตรวจยึดพัสดุไปรษณีย์ต้องสงสัย 3 กล่อง ถูกส่งมาจากไปรษณีย์ สาขาพะวง จ.สงขลา ปลายทางไปรษณีย์ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์
เปิดตรวจสอบพบเป็นงาช้าง 4 ท่อน น้ำหนักรวม 20.39 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท!
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตรวจพิสูจน์เบื้องต้นยืนยันว่า เป็นงาช้างแอฟริกา ผิดอนุสัญญาว่าด้วยการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) แบบเต็มๆ
ตำรวจ ปทส.จึงมีหน้าที่ตามลากคอเครือข่ายค้างาช้างรายนี้มาดำเนินคดี เริ่มด้วยรวบรวมหลักฐานขอหมายจับคนส่งงาช้างของกลางที่ศุลกากรตรวจพบ...
จนศาลอาญาอนุมัติหมายจับ นายเอกพล ชูดวง ข้อหานำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังไม่ได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยไม่ได้รับอนุญาต ข้อหาช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสียซื้อ รับจํานํา หรือรับไว้ด้วยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร 2560
หลังตามจับกุมพาตัวไปตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 14/1 หมู่ 1 ต.กระดังงา อ.สทิงพระ จ.สงขลา พบงาช้างทั้งเป็นท่อนและแปรรูปแล้วกว่า 255 กก. พร้อมเครื่องจักรที่ใช้ทำสิ่งประดิษฐ์จากงาช้าง
ไม่รู้ว่าต้องฆ่าช้างกี่ตัวถึงจะได้งาช้างเยอะขนาดนี้!
ขยายผลตรวจค้น 6 จุดในจังหวัดนครสวรรค์ จับกุม นายพิเชษฐ์ มารศรี นายบุญเสริม พวงสมบัติ และ นางวรรณา ขะมันจา พร้อมงาช้างที่แปรรูปเป็นเครื่องประดับแล้ว
...
แต่การทลายเครือข่ายนี้ยังไม่จบ เพราะยังมีเครือข่ายในจังหวัดนครสวรรค์ บุรีรัมย์ และสุรินทร์อีก
ตามลากคอมาลงโทษให้หมด! เพราะนอกจากจะทำผิดกฎหมายไทยแล้ว เป็นเรื่องที่ต่างชาติให้ความสำคัญ มีผลกับสถานภาพของประเทศชาติในสายตาโลกด้วย?
สหบาท