ผู้สื่อข่าวไทยรัฐทีวีลงพื้นที่สัมภาษณ์ นายวรวุฒิ อยู่ญาติมาก อายุ 42 ปี หัวหน้าโฟร์แมน ประจำการบินไทย สุวรรณภูมิ หลังบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถบรรทุกพลิกคว่ำ จนตู้คอนเทนเนอร์หลุดทับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ที่นายวรวุฒิขับมา เหตุเกิดที่หน้าโรงเรียนวัดพลมานีย์ ถนนประชาพัฒนา แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร

โดย นายวรวุฒิ สามารถพูดคุย และเดินได้ปกติ มีเพียงบาดแผลที่ลำตัวเล็กน้อย และมีอาการปวดมือข้างซ้าย เพราะถูกกดทับเป็นเวลานาน นายวรวุฒิ เล่าว่า ขณะนี้อาการบาดเจ็บดีขึ้นแล้ว แต่ยังเจ็บหน้าอกด้านซ้าย แต่แพทย์เอกซเรย์แล้วไม่พบว่ามีกระดูกหัก คาดว่าต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลประมาณ 1 สัปดาห์ 

นายวรวุฒิ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังขับรถกลับบ้าน แต่เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางโค้งหักศอก เห็นรถบรรทุกเลี้ยวข้ามเลนมา ซึ่งช่วงเวลานั้นหากจะเหยียบคันเร่งคิดว่าคงไม่รอด เพราะรถบรรทุกมาด้วยความเร็วมาก จึงตัดสินใจชะลอรถ แต่ระหว่างนั้น เห็นตู้คอนเทนเนอร์กำลังจะหล่นลงมา จึงพยายามจะดึงเบาะให้อยู่ในลักษณะนอน แต่ไม่ทัน จึงตัดสินใจนอนตะแคงไปทางด้านซ้าย ในลักษณะมือซ้ายพับขึ้นมาบริเวณใบหน้า ส่วนมือขวาจับพวงมาลัย และกดแตรเป็นระยะ

นายวรวุฒิ บอกอีกว่า หลังเกิดเหตุมีชาวบ้านมาช่วยเหลือ แต่ไม่รู้ว่าคือใคร ซึ่งได้บอกที่ตั้งบ้าน ทั้งบ้านเลขที่ ซอย เพราะยังมีสติ และรู้ตัวตลอด และให้ไปตามภรรยามาที่เกิดเหตุ เพราะบริเวณนั้นห่างจากบ้านเพียง 300 เมตร ต่อจากนั้นประมาณ 20 นาที ภรรยาของตนก็มาถึง และตะโกนบอกให้ “สู้ๆ นะพ่อ”

ส่วนระยะเวลา 2 ชั่วโมงที่ติดอยู่ในซากรถ ตอนนั้นเขานึกถึงเพียงหน้าพ่อ แม่ ภรรยา และลูก แต่มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่จะช่วยตัวเขาออกมาจากซากรถได้

นายวรวุฒิ ยังกล่าวด้วยว่า อยากฝากไปถึงเขตลาดกระบัง อยากให้ขยายถนนให้กว้างมากขึ้น เพราะถนนเส้นนี้เป็นถนนที่รถบรรทุกวิ่งเป็นประจำ อาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นอีกได้

...

โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ร้อยตำรวจเอกวัชรพงศ์ สีขน รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลจรเข้น้อย เรียก นางละมุล อยู่ญาติมาก อายุ 39 ปี ภรรยาของนายวรวุฒิ และตัวแทนจากห้างหุ้นส่วนจำกัด เค.พี.เอส.ทรานสปอร์ต พร้อมตัวแทนประกันภัยจากทั้ง 2 ฝ่าย เข้าเจรจาเรื่องค่าเสียหาย

ส่วนทางด้านคดี ร้อยตำรวจเอกวัชรพงศ์ ระบุว่า จากการตรวจปัสสาวะ นายณรงค์ วงษ์เพ็ญ อายุ 33 ปี คนขับรถบรรทุก เบื้องต้นพบว่า มีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย 49 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ โดยเจ้าตัวสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุได้ดื่มเบียร์ไปจริง แต่อ้างว่าช่วงเกิดเหตุได้ใช้ความเร็วในการขับรถไม่เกิน 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และยอมรับว่ามีอาการหลับใน เพราะก่อนหน้านี้พักผ่อนน้อย เมื่อขับรถไปถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางโค้งหักศอก ได้มีรถจักรยานยนต์เข้ามาเบียดแซงซ้าย จึงหักหลบออกขวา แต่รถมีน้ำหนักมาก จึงเสียหลักพลิกคว่ำ จนตู้คอนเทนเนอร์หลุดไปทับรถของผู้บาดเจ็บ

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบคลิปจากกล้องวงจรปิด ตำรวจไม่พบรถจักรยานยนต์อยู่ด้านหน้า พบเพียงรถจักรยานยนต์หน้ารถผู้บาดเจ็บ ซึ่งขี่อยู่ในเลนปกติเท่านั้น เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และส่งตัวฟ้องศาลจังหวัดมีนบุรีแล้ว