พบขับรถเร็วเป็นสาเหตุหลัก “ฉัตรชัย” กำชับ สสส.วางเป้าสางปัญหา
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการกองทุน สสส. ครั้งที่ 5 ว่า จากนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ห่วงใยเรื่องสถิติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น จึงสั่งการให้ทุกหน่วยงานดำเนินงานอย่างเข้มข้นตลอดปี ไม่ให้ความสำคัญเฉพาะช่วงเทศกาลเท่านั้น ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาบทเรียนจากการดำเนินมาตรการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 ที่ผ่านมา พบว่าโจทย์สำคัญคือ การขับรถเร็วเป็นสาเหตุการเสียชีวิตถึง 39.3% รองลงมาคือ การดื่มแล้วขับ 28% และการตัดหน้ากระชั้นชิด 20.4% โดยจักรยานยนต์เสียชีวิตสูงสุด 67.4% ซึ่งส่วนใหญ่ไม่สวมหมวกนิรภัย จากข้อมูลพบว่า ยิ่งดื่มแอลกอฮอล์ ยิ่งละเลยในการใช้อุปกรณ์นิรภัย ทั้งนี้ แม้รัฐบาลออกกฎหมายคาดเข็มขัดนิรภัย แต่การบังคับใช้ยังมีข้อจำกัด รวมทั้งมาตรการส่งเสริมการขายแอลกอฮอล์ของสถานประกอบการทุกรูปแบบ ทั้งการจัดคอนเสิร์ตเที่ยงวันถึงเที่ยงคืน กลายเป็น ต้นน้ำของปัญหาในการดื่มแล้วขับ
รองนายกฯกล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้มีข้อเสนอให้วางแนวทางขอความร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าใหญ่ อาทิ เครือเซ็นทรัล เดอะมอลล์ ที่มีการจัดกิจกรรมรื่นเริงในช่วงเทศกาลปลอดแอลกอฮอล์ รวมถึงมาตรการทางกฎหมาย อาทิ ผลักดันให้มีการแก้ไขกฎหมายเพิ่มบทลงโทษให้สูงขึ้นในกรณีที่ระดับแอลกอฮอล์สูง หรือเป็นกรณีที่ทำความผิดซ้ำ รวมถึงมาตรการที่ สสส.เข้าไปมีบทบาทอย่างมาก คือการเพิ่มศักยภาพในระดับพื้นที่ สนับสนุนให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนระดับอำเภอ กำหนดให้ประเด็นนี้เป็นวาระอำเภอ มีการดำเนินงานตลอดปี และรายงานผลการดำเนินงาน วิเคราะห์สาเหตุและประเมินสถานการณ์เป็นประจำทุกเดือน รวมถึงทำให้ท้องถิ่นและชุมชนเข้ามาเป็นเจ้าภาพหลักในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ฝ่าแรงต้านของความคิด ความเชื่อ ความเคยชินของคนในชุมชน ซึ่ง สสส.จะนำข้อสรุปจากช่วงสงกรานต์ ไปวางแผนทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุต่อไป.
...