การปราบปรามยาเสพติด เป็นวาระแห่งชาติของทุกรัฐบาลมาเป็นสิบปี แต่ไฉนยังระบาดหนัก!
ขนาดข้าราชการในจวนผู้ว่าฯยังเกี่ยวพันยาเสพติด แล้วชาวบ้านจะเหลืออะไร?
ต้องยกขบวนเชียร์ ท่านผู้ว่าฯจังหวัดกาฬสินธุ์ นายไกรสร กองฉลาด เปิดยุทธการฟ้าแดดสงยาง ร่วมกับตำรวจ-ทหาร ตรวจค้นจับกุมยาเสพติดทั้งจังหวัด
ต้องพบกับข้อมูลที่น่าตกใจ เพราะมีข้าราชการหลายหน่วยที่รวมกันอยู่ในจวนผู้ว่าฯ เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดทั้งทางตรงและทางอ้อม?
สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนเกือบ 10 คน!
มีทั้งตั้งตัวเป็นเอเย่นต์ขายยาบ้าซะเอง และคอยแจ้งข่าวความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ ฉาวไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
มันทำให้เห็นว่า ยาเสพติดแทรกซึมอยู่ในสังคมไทยทุกหย่อมหญ้า มีแต่จะระบาดหนักขึ้น...หนักขึ้น...
สมัยก่อนจับได้ครั้งละหลักแสนเม็ดถือว่าเป็นรายใหญ่...ต่อมาเห็นหลักล้านเม็ดถึงกับตาโต...
แต่สมัยนี้เหรอ มันไปไกลขนาดขนกันทีหลายล้านเม็ดแล้วครับ เจ้านาย...
ขืนยังติ๊ดชึ่งเกรงใจคนดีที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่นานยาเสพติดอาจจะกลายเป็นเรื่องเล็กในสังคมไทย?
แล้วคราวนี้ไม่ต้องไปสอนลูกหลานหรอกนะว่า ยาเสพติดมันร้ายแรง และเลวร้ายต่อร่างกายขนาดไหน
ถ้าซื้อง่ายขายคล่องขนาดนี้ เยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติคงไม่เหลือ!
หน่วยงานราชการเองออกระเบียบการตรวจสอบข้าราชการในสังกัดแบบกล้าๆกลัวๆ เรียกว่า มีเรื่องเมื่อไหร่ค่อยออกมาเต้นกันที
อย่างตำรวจสมัย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นอธิบดีกรมตำรวจ เคยออกคำสั่งที่ 1212/2537 ที่แสนจะฮือฮา ถ้าข้าราชการตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชาถูกจับได้ว่าเกี่ยวพันยาเสพติด
ต้องตั้งกรรมการเอาผิดผู้บังคับบัญชาขึ้นไป 2 ระดับ ข้อหาไม่สอดส่องดูแล!
อันนี้ก็ทำมั่งไม่ทำมั่ง แล้วแต่ยุคใคร? เด็กคนไหน?
...
สุดท้ายไม่เคยมี “กฎเหล็ก” เกี่ยวกับยาเสพติดที่ออกมาควบคุมข้าราชการหลายล้านคนจริงๆ
ยุคนี้เป็นรัฐบาลทหาร ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ออกระเบียบให้ตรวจสารเสพติดข้าราชการปีละครั้งเลยดีมั้ย
ไอ้ที่เป็น “อีแอบ” ทั้งเสพ ทั้งช่วยเหลือขบวนการยานรกกันอยู่ จะได้ออกมาดิ้นเป็นไส้เดือนถูกขี้เถ้ากันซะที?
สหบาท