แล้วเรามาถึงวันที่ตำรวจต้องวิ่งหนีผู้ต้องหากันแล้วหรือ?
เห็นคลิปที่ ด.ต.พิทักษ์ วรมูล ผบ.หมู่งานจราจร งานสายตรวจ 2 กก.1 บก.จร. ถูก นายลาร์รี่ ชอร์ นักธุรกิจหนุ่มชาวพม่า ฉุดกระชากลากถูบริเวณริมถนนใต้ด่วนพระราม 4 จนต้องวิ่งไปขึ้นแท็กซี่หนีเอาตัวรอดแล้ว...
รู้สึกสะท้อนใจ เพราะมันสร้างความเสียหายให้ภาพลักษณ์ตำรวจไทยใหญ่หลวง!
แถมยังถูกตั้งข้อสงสัยอีกมากมาย หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเอามาขยายถึงต้นสายปลายเหตุ เกิดจากการตั้งด่านเมาไม่ขับตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่รถเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 15 เม.ย. บริเวณใกล้แยกกล้วยน้ำไท ถนนพระราม 4 แขวงและเขตคลองเตย
นายลาร์รี่ ขับรถหรูบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ สีขาว คันงามเข้ามาที่ด่าน พร้อมเพื่อนที่นั่งมาด้วยอีก 2 คน ถูกเรียกเป่าตรวจวัดแอลกอฮอล์ผลที่ได้คือ 114 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ที่กฎหมายกำหนดไปเท่ากว่าๆ!
เลยถูกจับกุมควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ดำเนินคดี แต่ไอ้วิธีที่คุมตัวผู้ต้องหาไปโรงพักนี่แหละที่เป็นปัญหา?
แทนที่จะยึดรถ แล้วคุมเฉพาะตัวผู้ต้องหาไปส่งพนักงานสอบสวนเอง แต่ปรากฏว่า ด.ต.พิทักษ์กลับกระโดดขึ้นรถไปกับผู้ต้องหาเมาแล้วขับหน้าตาเฉย?
อ้างว่า เพราะขับรถรุ่นนี้ไม่เป็น จนไปมีเรื่องวิ่งหนีลงจากรถไล่กันให้อับอายขายขี้หน้า!
หลังกลายเป็นมากกว่าคดีเมาแล้วขับ นายลาร์รี่ ชอร์ ดอดเข้ามอบตัวพนักงานสอบสวนที่ สน.ทองหล่อ ถูกดำเนินคดี 3 ข้อหาคือ เมาแล้วขับ ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานระหว่างปฏิบัติหน้าที่ และทำลายเอกสารพยานหลักฐานทางราชการ
หอบเงินสด 1.5 แสนบาทมาประกันตัวเองไป โดยไม่ให้รายละเอียดอะไรทั้งนั้น?
เรื่องราวที่เปิดเผยจึงออกมาจากฝ่ายตำรวจทั้งนั้น อยากให้เผื่อใจไว้สำหรับข้อเท็จจริงอีกด้าน...
...
เพราะเป็นที่รู้กันว่า ด่านเมาแล้วขับนี่แหละ ตัวทำเงินให้ตำรวจเลยทีเดียว! หลายคนมีประสบการณ์กับตัวเองมาแล้วทั้งนั้น...ชาวบ้านเลยสงสัยว่า ตำรวจไปตีตังค์เค้าหรือเปล่า?
ว่าไปแล้วไม่มีใครรู้จริง นอกจากตำรวจ 1 นาย กับผู้ต้องหาและเพื่อนอีก 2 คนที่นั่งอยู่ในรถ
ตอนนี้ยังไม่กระไร...แต่ถ้าอีกฝ่ายยอมเปิดปากแฉออกมาเมื่อไหร่ สงสัยจะงามหน้า?
"สหบาท"