“โรคมือ”...สุดฮิตที่พบบ่อย มักเป็นปัญหาที่เกิดจากการทำงาน เกี่ยวกับการทำงานของมือส่วนใหญ่ใช้มากเกินไป ใช้ผิดท่า...ก็มีโอกาสเป็นมาก บางทีก็อาจจะมีปัจจัยอื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้อง
นพ.ยงค์ศักดิ์ เลียงอุดม ศัลยแพทย์ออโธปิดิกส์ ศัลยศาสตร์ทางมือและจุลศัลยศาสตร์ ผู้อำนวยการศูนย์กระดูกและข้อ รพ.กรุงเทพ บอกว่า อย่างนิ้วล็อก คนเป็นเบาหวาน...สูงอายุก็มีโอกาสที่จะเป็นเพิ่มขึ้น แนวทางการรักษาแน่นอนว่า ต้องเริ่มจากปรับการใช้มือ นิ้วมือให้น้อยลง
“บางทีเราก็พูดง่าย ต้องทำมาหากิน ใช้งาน ธรรมชาติสร้างขึ้นมาใช้งาน ถ้าบอกว่าไม่ให้ใช้งานเลยก็คงลำบากเหมือนกัน ก็ต้องปรับกันไปในแต่ละคนตามความจำเป็น”
อีกกรณีตัวอย่าง... “ปลอกหุ้มข้อมืออักเสบ” ที่เราพบบ่อยคุณแม่มือใหม่อุ้มลูก คนไทย...คนเอเชียอุ้มลูกมากก็จะพบบ่อย...แนะนำให้เลี้ยงแบบใช้รถเข็นก็เลี่ยงได้ลำบาก หรือแม้แต่การทำงานบ้าน...ใช้มาก ใช้ผิดท่าแนะนำให้ลดลงแต่ด้วยเหตุจำเป็นต้องทำก็เลี่ยงได้ยากเหมือนกัน
“สัญญาณที่สำคัญคือ...การปวด ธรรมชาติสร้างกลไกไว้อย่างหนึ่งก็คือการเตือน รู้สึกปวดแล้วก็ต้องระวัง ถ้าอักเสบ...มีปัญหาแล้วไม่มีการเตือนก็ยิ่งใช้งาน ยิ่งใช้มากก็ยิ่งอักเสบมาก ไม่ว่าจะเป็นอาการปวด ชา...เพิ่มขึ้นถ้าเป็นเกี่ยวกับเส้นประสาท หรือถ้าเป็นมากๆ มือก็อ่อนแรง จับอะไรก็เหมือนจะถือไม่ได้ ของอาจหล่น”
ในภาพรวมการรักษาขั้นแรก จริงๆต้องเริ่มจากการปรับใช้มือในชีวิตประจำวัน เล่นกีฬา การทำงาน ต้องปรับ...บางคนเล่นกอล์ฟแล้วเป็นนิ้วล็อกก็มี ต้องปรับวิธีจับไม้ ความถี่การเล่น การเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อน
ที่พบไม่น้อยก็คือ นักกอล์ฟมือใหม่หัดเล่นเป็นเส้นเอ็นข้อมืออักเสบ ด้วยร่างกายยังไม่พร้อม ไม่มีการวอร์มอัพ...จับไม้...การเล่นอย่างถูกวิธี และรวมถึงปัจจัยอีกหลายๆอย่าง
...
“การทำงานก็เหมือนกัน บางคนทำงานพิมพ์ทั้งวัน ก็บอกคนไข้ว่าพิมพ์ให้น้อยหน่อย...ใช้ให้น้อยๆ เขาก็รู้แต่เจ้านายให้งานมาก็เลี่ยงได้ลำบาก ให้เข้าใจว่าการลด ปรับตัวการใช้มือในชีวิตประจำวันเป็นสิ่งสำคัญ”
ปรับแล้ว...ลดแล้วถ้ายังไม่ดีขึ้นมีการอักเสบก็ต้องใช้ยาแก้ปวด แก้อักเสบเข้ามาช่วย แต่ไม่ได้ใช้นานแค่เพียงช่วงสั้นๆเท่านั้น อีกระดับหนึ่งปลอกข้อมืออักเสบ หรือนิ้วล็อก หรืออาการพังผืดรัดเส้นประสาทที่ข้อมือ การฉีดยาเฉพาะที่ในตำแหน่งที่เป็นก็ได้ผลค่อนข้างจะดี แต่การฉีดยาก็จะมีข้อจำกัด...ฉีดประมาณสัก 2 ครั้งก็จะไม่ได้ผลแล้ว
“การอักเสบจะเปลี่ยนเป็นพังผืด แข็งตัว...กับเยื่อหุ้มเอ็นที่บวมแดงฉีดยายังได้ผล แต่ฉีดไปสองครั้งจะไม่ได้ผล ก็จะไปสู่การรักษาขั้นสุดท้ายคือการผ่าตัด...เป็นการผ่าตัดเล็ก ใช้เวลา 10-15 นาทีก็เสร็จ ฉีดยาชา...ใช้เวลาสั้นๆ คนไข้ไม่ต้องนอนโรงพยาบาลผ่าเสร็จกลับบ้านได้เลย แต่ไม่มีใครอยากผ่าแน่นอน จึงเป็นวิธีสุดท้าย”
สำหรับ “3 โรคมือ” สุดฮิต อันดับหนึ่งต้องยกให้... “นิ้วล็อก” เกิดจากการใช้งานมากไป หรือใช้มืออย่างไม่ถูกต้อง เช่น จับหรือเกร็งนิ้วมือเป็นเวลานาน จนเกิดการอักเสบที่โคนนิ้วมือ สาเหตุเกิดจากการอักเสบของเส้นเอ็นและปลอกหุ้มเอ็นที่ทำหน้าที่งอนิ้วมือ...จะเกิดการหดตัว ทำให้เส้นเอ็นถูกล็อก งอหรือเหยียดนิ้วไม่ได้
ทั้งนี้ การรักษาโรคนิ้วล็อกในระยะแรก แพทย์จะรักษาให้หายอักเสบด้วยการทานยา หรือการฉีดยาก็จะช่วยให้ไม่ต้องผ่าตัดได้ แต่ถ้าปล่อยไว้นานจนถึงขั้นล็อกแล้วปวดมาก งอเหยียดไม่ได้ ฉีดยาแล้วไม่ได้ผล แพทย์จะพิจารณาการผ่าตัดขยายปลอกหุ้มเอ็นที่มีปัญหาเพื่อให้กลับมาใช้งานได้
สอง...“เส้นประสาทที่ข้อมืออักเสบ หรือโรคพังผืดเส้นประสาทที่ข้อมือ” เป็นโรคมือที่พบบ่อยที่สุด เนื่องจากบริเวณข้อมือจะมีช่องว่างจำกัด และเส้นประสาทเส้นใหญ่อยู่ในบริเวณนั้น คนที่มีการใช้ข้อมือมากๆ เยื่อหุ้มเอ็นเกิดการอักเสบ จากนั้นจะเกิดพังผืดไปกดเส้นประสาทที่ข้อมือ
ทำให้เกิดอาการ 3 อย่างคือ ปวด ชาที่มือ มืออ่อนแรง
สำหรับบางคนที่มีอาการมากจะสังเกตดูได้จากบริเวณเนินพระจันทร์ (กล้ามเนื้อนูนๆ บริเวณโคนนิ้วหัวแม่มือจะลีบ) จะมีอาการชานิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง และบางส่วนของนิ้วนาง...ในระยะแรกจะมีอาการปวดชาเล็กน้อย แพทย์อาจรักษาด้วยการฉีดยา หรือใส่ปลอกข้อมือ หรือลดการใช้ข้อมือให้น้อยลง โดยไม่ต้องผ่าตัด แต่หากมีพังผืดกดเส้นประสาทมากๆ กล้ามเนื้อบริเวณเนินพระจันทร์จะลีบฝ่อและหายไป มืออ่อนแรงหยิบจับสิ่งของไม่ได้ การผ่าตัดรักษาโรคนี้ใช้เทคนิคผ่าตัดแผลเล็ก เพื่อขยายช่องเส้นประสาท ใช้เวลา 10-15 นาที
โดยแพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะที่เมื่อผ่าตัดแล้วสามารถกลับบ้านได้ ไม่ต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดคือ แผลผ่าตัดห้ามโดนน้ำ 7 วัน จากนั้นแพทย์จะตัดไหม ภายหลังตัดไหมแล้วสามารถกลับไปใช้งานได้ตามปกติ
สาม... “เอ็นข้อมืออักเสบ” เป็นโรคที่พบบ่อยในกลุ่มคนที่ใช้มือทำงานหนัก จนเกิดการอักเสบที่เอ็นบริเวณข้อมือทางด้านหลังฝั่งนิ้วหัวแม่มือ เจ็บเมื่อกระดกนิ้วหัวแม่มือ การรักษาในระยะแรกทำได้โดยการประคบเย็นบ่อยๆ ตามด้วยการขยับเบาๆ เพื่อให้เอ็นมีการยืดตัว ไม่ควรทำรุนแรง ร่วมกับการพักการใช้มือ
ในส่วนของการรักษา...“โรคเนื้องอกเส้นประสาทบริเวณมือ” คุณหมอยงค์ศักดิ์ ย้ำว่า คนไข้จะมาพบแพทย์ด้วยก้อนที่เกิดขึ้นบริเวณข้อมือ โดยจะรู้สึกเหมือนไฟช็อต มีอาการชามือ ปวด เนื่องจากเส้นประสาทถูกกดทับ...“เส้นประสาทที่เราอาจมองเห็นจากภายนอกเป็นเส้นใหญ่ๆ ความจริงแล้วมีเส้นประสาทเส้นเล็กๆอยู่ข้างในเป็นร้อยๆเส้น...การผ่าตัด เนื้องอกในเส้นประสาทต้องใช้กล้องที่มีความละเอียดเป็นพิเศษในการตัดเนื้องอก หรือถุงน้ำในเส้นประสาท เพื่อแยกเส้นประสาทเล็กๆออกมา”
...
หากผ่าตัดโดนเส้นประสาทคนไข้อาจสูญเสียความรู้สึกที่มือได้ นอกจากนี้ยังมีการรักษานิ้วมือที่พิการแต่กำเนิด เช่น นิ้วเกิน นิ้วติดกัน และหลักการผ่าตัดอุบัติเหตุทางมือ คือ...ต้องผ่าตัดให้เร็วที่สุด เพื่อคนไข้สามารถเคลื่อนไหวได้เร็วที่สุด ซึ่งก่อนผ่าตัดต่อนิ้วนั้น แพทย์จะพิจารณาถึงลักษณะความรุนแรงของการบาดเจ็บและตำแหน่งที่ขาด ในกรณีที่คนไข้มาถึงโรงพยาบาลช้า โอกาสติดเชื้อหรือเนื้อตายย่อมมีมากขึ้น
หรือ...ในกรณีที่รักษามาแล้วแต่ไม่หายนานเกิน 1 ปี กระดูกติดแต่ผิดรูป เส้นเอ็นต่อแล้วใช้การไม่ได้ เส้นประสาทเสียหายเป็นเวลานานต่อไม่ได้ ย่อมทำให้การเคลื่อนไหวมือหรือนิ้วอาจดีไม่เท่าเดิม
ฉะนั้น เมื่อเกิดปัญหาควรรีบส่งโรงพยาบาล เพื่อรับการรักษาให้เร็วที่สุด
“มือ”...เป็นอวัยวะหนึ่งที่มีความสำคัญ ใช้ในการหยิบจับสิ่งของ ทำกิจวัตรประจำวันแทบทุกอย่างในชีวิต หากมือประสบปัญหาหรือเกิดอุบัติเหตุอันจะเป็นสาเหตุทำให้มือเกิดความผิดปกติไป ควรรีบรักษาจากทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะประสบการณ์เป็นสิ่งจำเป็น เพราะมือเป็นอวัยวะที่มีขนาดเล็กและมีความซับซ้อน ที่ต้องใช้ความละเอียดสูงในการรักษา และการผ่าตัดทางมือต้องใช้ศาสตร์ที่ครบเครื่อง
มือของคนเราประกอบไปด้วย กระดูก เส้นเอ็น เส้นประสาท เส้นเลือด และข้อเล็กๆ มีความเซนซิทีฟ...รู้สึกไวมาก โดยมีเส้นประสาทที่รับความรู้สึกมากที่สุดในร่างกายรองจากดวงตา เราจะสังเกตว่าคนที่ตาบอดเขาใช้มือคลำอักษรเบรลล์ เพราะฉะนั้นประสาทรับความรู้สึกของมือจึงรองจากดวงตา
“โรคมือ”...เป็นอีกโรคใกล้ตัวที่ทุกคนต้องระวัง การปรับการใช้งานให้เหมาะสม รู้จักใช้ให้ถูกต้อง ไม่ใช้หนักเกินไป ไม่ใช้ผิดท่า...มีความจำเป็นอย่างมาก ยิ่งอายุมากขึ้น 50 ปีขึ้นไปโอกาสเป็นโรคทางมือก็ยิ่งมาก...สังเกตสัญญาณเตือนทางธรรมชาติให้ดีๆ เจ็บๆ ปวดๆ เมื่อไหร่ ต้องระวัง ป้องกันเสียแต่เนิ่นๆ.
...