นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวในงานแถลงข่าวยุติเชื้อดื้อยา ว่า ปัญหาเชื้อดื้อยาเป็นวิกฤติทั่วโลกปัจจุบันทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อดื้อยาประมาณปีละ 7 แสนคน หากไม่เร่งแก้ปัญหาคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตถึงปีละ 10 ล้านคนเฉพาะประเทศไทยมีการคาดการณ์ว่ามีผู้ป่วยเชื้อดื้อยาปีละประมาณ 8.8 หมื่นคนเสียชีวิตปีละประมาณ 3.8 หมื่นคน นับเป็นเรื่องสำคัญถึงขั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญปักหมุดหยุดเชื้อดื้อยา โดยตั้งคณะกรรมการนโยบายการดื้อยาต้านจุลชีพ เพื่อทำยุทธศาสตร์จัดการเชื้อให้หมดในปี 2564 ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดให้มีการใช้ยาอย่างสมเหตุผล ไม่ใช้ยาพร่ำเพรื่อ นอกจากนี้ ยังต้องเร่งแก้ไขความเชื่อของประชาชนว่าโรคบางโรคสามารถหายเองได้ ไม่ต้องกินยาปฏิชีวนะ เช่น หวัด ไอ เจ็บคอ แผลสด เป็นต้น
นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า ยามีอยู่ 4 ประเภท คือ 1.ยาควบคุมพิเศษ อนุญาตให้ใช้ในโรงพยาบาลเท่านั้น 2.ยาอันตรายอนุญาตให้ใช้ในสถานพยาบาลและจำหน่ายในร้านขายยาที่มีเภสัชกรเท่านั้น 3.ยาสามัญประจำบ้าน และ4.ยาอื่นๆ ทั้งนี้ยาปฏิชีวนะจะจัดอยู่ในประเภทที่ 1 และ 2 คือเป็นการกำหนดขอบเขตการใช้ และขณะนี้คณะกรรมการยากำลังมีการทบทวนทะเบียนตำรับยาปฏิชีวนะ โดยยกสถานะยาบางตัวจากที่เคยอนุญาตให้จำหน่ายในร้านขายยามาเป็นการใช้ในสถานพยาบาลเท่านั้น ซึ่งมี 2 แบบ คือ 1.ยาที่มีผลต่อการรักษาโรคยากในโรงพยาบาลและ 2.ยารักษาวัณโรค ซึ่งใช้ในโรงพยาบาลเป็นยาสูตรผสมบางตัวยามีการนำมาใช้เป็นยาเดี่ยวในการรักษาไข้หวัด ท้องเสีย ซึ่งเป็นยาอันตรายที่ยังมีการขายในร้านขายยาอยู่.