ปปช.ลุยสอบ อมเงินคนจน ‘แบม’ ฮอต-แบงก์ชวนทำงาน

อธิบดี พส.แถลงผลตรวจ 56 หน่วยงานในสังกัด พบทุจริตเงิน สงเคราะห์ผู้ยากไร้ 21 แห่ง สั่งเด้ง16 หัวหน้าหน่วยออกนอกพื้นที่ พร้อมตั้งกรรมการสอบวินัย เจอไร้โกงเพียง 4 แห่ง อีก 31 แห่ง อยู่ระหว่างตรวจสอบ ป.ป.ช.เริ่มสอบอมเงินคนจน เก็บข้อมูลเส้นทางการเงินเอาผิดบิ๊กข้าราชการ ศธ.เผยผลสอบอาจารย์ทุบหลังลูกศิษย์ปูดข้อมูลทุจริต ผิดจรรยาบรรณ “น้องแบม” เผยกำลังใจดีเยี่ยม เดินหน้าทำวิจัยหวังจบการศึกษาพร้อมเพื่อน ปลัด ศธ. ประสาน ปปง. อายัดเงิน 22 บัญชี ยักยอกเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต 88 ล้าน บาท “วิษณุ” ลั่น ป.ป.ท.มีอำนาจสอบทุจริตทุกหน่วยงานเต็มที่

เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ยังคงเดินหน้าตรวจสอบขบวนการโกงเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งตามจังหวัดต่างๆ เพื่อขุดรากถอนโคน เบื้องต้นพบมีการทุจริต 44 จังหวัด จำนวนเงิน 97,842,000 บาท เตรียมตั้งอนุกรรมการไต่สวนรายจังหวัด ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. สั่งขันนอตไล่ตรวจงบประมาณทุกกระทรวง ป้องกันปัญหาทุจริต

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) แถลงข่าวการตรวจสอบทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและคนไร้ที่พึ่ง ระบุว่า พส.จัดทีมลงพื้นที่ตรวจสอบการทุจริตของหน่วยงานในสังกัด 56 แห่ง ผลการตรวจสอบแบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ 1.กลุ่มที่ไม่พบการทุจริต สอดคล้องกับการตรวจสอบของ ป.ป.ท. มี 4 แห่ง คือ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสมุทรสงคราม สิงห์บุรี ภูเก็ต และนครศรีธรรมราช 2.กลุ่มที่อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ 31 แห่ง และ 3.กลุ่มที่ตรวจสอบพบมูลความผิด 21 แห่ง ในจำนวนนี้สั่งย้ายหัวหน้าหน่วยงานออกจากพื้นที่มายังส่วนกลางแล้ว 16 แห่ง อาทิ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดบึงกาฬ สุราษฎร์ธานี พัทลุง ยะลา รวมถึงมีหัวหน้าหน่วยงานนิคมสร้างตนเองควนขนุน จ.พัทลุง นิคมฯเทพา จ.สงขลา นิคมฯ ธารโต จ.ยะลา ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูง จ.เชียงใหม่ คาดว่าจะตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงได้ภายในสัปดาห์นี้

นางนภากล่าวต่อว่า ส่วนจังหวัดที่ชัดเจนและได้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงแล้ว คือศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่นและเชียงใหม่ ศูนย์ฯ ขอนแก่นอยู่ระหว่างขยายเวลาให้ผู้ถูกกล่าวหานำข้อมูลหลักฐานมาหักล้าง คาดว่าสิ้นเดือน มี.ค.นี้จะทราบผลการพิจารณาฐานความผิด ส่วนที่ศูนย์ฯ เชียงใหม่อยู่ระหว่างให้ผู้ถูกกล่าวหาส่งข้อมูลหลักฐานมาหักล้าง พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พม. ย้ำให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวควบคู่กับ ป.ป.ท. เพื่อให้เกิดความชัดเจนและให้เกิดความรวดเร็ว ทำหนังสือถึงเลขาธิการ ป.ป.ท. ขอความร่วมมือในการส่งข้อมูลการตรวจสอบแต่ละพื้นที่ เพื่อจะได้ทำงานคู่ขนานให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงการตรวจสอบการทุจริตเงินศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ว่า ป.ป.ช. มีมติให้สำนักไต่สวนภาครัฐ 3 ที่รับผิดชอบกระทรวงการพัฒนาสังคมฯไปแสวงหาข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่ามีกระบวนการที่มาของงบประมาณ และการจัดสรรงบฯจากกระทรวงไปสู่กรม และกรมลงไปสู่พื้นที่เป็นอย่างไร เพราะการกล่าวหาข้าราชการระดับสูงเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. ที่ต้องเข้าไปตรวจสอบ แต่จะไม่เข้าไปก้าวก่ายหรือกระทบการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนเกิดความซ้ำซ้อนกัน เพียงแต่จะขอข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณา ต้องดูทุกขั้นตอนว่าทำตามกฎระเบียบหรือไม่ หากไม่ทำตามกฎจะต้องมีผู้รับผิดชอบ เรื่องนี้ ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สังคมสนใจ

ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณี น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือน้องแบม นิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาพัฒนาชุมชน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม หรือ มมส. เป็นผู้ออกมาเปิดโปงการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ จนถูกอาจารย์ที่ปรึกษาสั่งให้ไปกราบขอโทษผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริต รวมถึงทุบหลัง และใช้วาจาที่ไม่สุภาพ ว่า นายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) รายงานผลการสอบสวนเบื้องต้นให้ทราบแล้ว คณะกรรมการฯ ยืนยันว่าอาจารย์ที่ปรึกษาได้ตีไหล่เด็กจริง แต่เป็นการตีโดยที่ไม่ใช่ลักษณะการปลอบหรือให้กำลังใจ ถือเป็นการกระทำที่ผิดจรรยาบรรณ เสนอให้อธิการบดี มมส. ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องจรรยาบรรณอาจารย์ที่ปรึกษาคนดังกล่าว ส่วนประเด็นอื่นๆ ยังไม่มีความชัดเจนให้เลขาธิการ กกอ. ไปรวบรวมข้อมูลและรายละเอียดมารายงานให้ทราบอีกครั้ง เรื่องนี้เด็กทำในสิ่งที่ถูกต้องเป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง ควรจะปกป้องเด็กและยกย่องเชิดชู

น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือน้องแบม นิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาพัฒนาชุมชน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม หรือ มมส. เปิดเผยว่า ขณะนี้ขอเดินหน้าเรื่องเรียนเป็นหลัก เร่งทำวิจัยหัวข้อการดูแลผู้สูงอายุ เพื่อให้สำเร็จการศึกษาพร้อมกับเพื่อน โดยมีตำรวจและทหารมาคอยรักษาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิดในช่วงของการทำหน้าที่พยานคดีทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ ตนและครอบครัวมีกำลังใจดี ขณะเดียวกันได้รับการติดต่อจากมหาวิทยาลัยภาครัฐและเอกชนหลายแห่ง จะมอบทุนการศึกษาต่อในระดับชั้นปริญญาโท รวมถึงสนับสนุนเรื่องการประกอบอาชีพตามความถนัด ส่วนธนาคารกรุงไทยประสานรับเข้าทำงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในที่สำนักงานใหญ่หลังสำเร็จการศึกษา ครอบครัวขอขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้ แต่ตอนนี้ขอมุ่งไปที่เรื่องเรียนให้สำเร็จการศึกษาตามระเบียบของมหาวิทยาลัยก่อน

นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผวจ.นครพนม กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ตรวจสอบพบการทุจริตเบิกจ่ายเงินของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครพนม รวมถึงมีชาวบ้านอัดคลิปผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งช่วยเจรจากับชาวบ้านให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ได้รับเงินแล้ว ว่า มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีความผิดจริง จะแจ้งให้หน่วยงานต้นสังกัดดำเนินการตามกฎหมาย รวมถึงตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทางวินัย ทั้งนี้ทางจังหวัดไม่ได้เพิกเฉย และจะไม่มีการละเว้นผู้กระทำผิดอย่างแน่นอน พร้อมประสานไปยังอำเภอ และหน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

เช่นเดียวกับนายสมเพชร สร้อยสระคู รอง ผวจ.ยโสธร เปิดเผยว่า สั่งให้ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดยโสธรเข้ามาชี้แจงหลัง ป.ป.ท. ระบุว่า พบการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดยโสธร ยืนยันว่าทำการเบิกจ่ายเงินสงเคราะห์ถูกต้องตามคู่มือการเบิกจ่าย และเตรียมชี้แจงเป็นเอกสารภายหลัง อย่างไรก็ตามทางจังหวัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้เวลาทำการสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามีการทุจริตการเบิกจ่ายเงินสงเคราะห์จริงหรือไม่ เพราะต้องรอคณะกรรมการสอบสวนทำการสอบสวนและตรวจเอกสารให้ละเอียดอีกครั้ง

ส่วนกรณีทุจริตยักยอกเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต 88 ล้านบาท ของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า หลังจากที่มีการแจ้งความดำเนินคดีในส่วนของ 22 บัญชีที่มีการถ่ายโอนเงินของกองทุนฯ ได้ประสานไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อขอให้เข้ามาอายัดทรัพย์ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้ง 22 บัญชี โดยวันที่ 15 มี.ค. ปปง.จะเข้ามาหารือรวมทั้งขอข้อมูลโครงการรายละเอียดการเบิกจ่าย เพื่อดูว่าผู้ที่มีส่วนทั้ง 22 บัญชีจะมีทรัพย์ให้อายัดคืนกลับให้กองทุนฯหรือไม่ นอกจากนี้กำลังหาแนวทางเยียวยาเด็กที่ได้รับทุน โดยให้เร่งตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินย้อนหลังว่าเด็กได้รับทุนครบหรือไม่

นายการุณกล่าวต่อว่า ส่วนการดำเนินการทางวินัยกับข้าราชการที่เกี่ยวข้อง 5 ราย ขณะนี้ได้มีคำสั่งย้ายข้าราชการทั้ง 5 รายไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นแล้ว เพื่อเปิดทางให้กระบวนการสืบข้อเท็จจริงดำเนินการได้เต็มที่ รวมทั้งนางรจนา สินที ข้าราชการระดับ 8 ที่รับสารภาพ ในเร็วๆนี้จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเสนอให้พิจารณาโทษความผิดวินัยอย่างร้ายแรงกับนางรจนา เพราะถือว่าเป็นความผิดชัดแจ้งที่เจ้าตัวสารภาพ ไม่ต้องมีการสอบสวนวินัยอีก โทษวินัยร้ายแรงมี 2 กรณี คือ ไล่ออกกับปลดออก ส่วนผู้เกี่ยวข้องคนอื่นๆต้องรอคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงลงไปสืบข้อมูลเชิงลึก พร้อมขอให้ขยายผลการตรวจสอบไปยังกองทุนต่างๆตามข้อสั่งการของ รมว.ศึกษาธิการ จะตรวจสอบอย่างจริงจังกับทุกกองทุน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการตรวจสอบการทุจริตในหลายโครงการ รัฐบาลจำเป็นต้องส่งคนลงไปร่วมตรวจสอบหรือไม่ว่า คงไม่ต้องเพราะมี ป.ป.ท. ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ในการตรวจสอบ และป้องกันการทุจริตในภาครัฐอยู่แล้ว ป.ป.ท. มีสิทธิ์ที่ระดมหรือขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่นๆ อีกทั้งการตรวจสอบไม่ได้ลงไปลักษณะของการตรวจสอบทุจริต แต่เป็นการสุ่มลงไปตามที่มีข้อสงสัย ถ้าพบว่ามีการทุจริตจะมีกระบวนการอื่นตามลงไปอีกที เมื่อถามว่าขณะนี้พบแล้วหลายโครงการ หากมีการสุ่มตรวจลงไปอีกจะพบอีกหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ในความเป็นจริงข่าวไม่มี แต่เขาก็ลงไปสุ่มตรวจอยู่หลายโครงการมาก่อนหน้านี้แล้ว