ช้างน้าวเวียดนาม มีถิ่นกำเนิดจากประเทศเวียดนาม มีชื่อวิทยาศาสตร์และมีลักษณะทางพฤกษศาสตร์เหมือนกับต้นช้างน้าวไทยเกือบทุกอย่างคือ OCHNA INTEGERRIMA (L.) MERR. อยู่ในวงศ์ OCHINACEAE เป็นไม้ยืนต้น สูงไม่เกิน 3-7 เมตร มีข้อแตกต่างกับต้นช้างน้าวไทยคือ ดอกของ “ช้างน้าวเวียดนาม” จะมีหลายกลีบเรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆหลายชั้นคล้ายดอกมะลิซ้อน กลีบดอกเป็นสีเหลืองสด เหมือนกับกลีบดอกของช้างน้าวไทยทุกอย่าง ทำให้ดูสวยงามมาก ที่สำคัญเวลามีดอกจะทิ้งใบหมดทั้งต้นเช่นเดียวกันด้วยเลยดูสวยงามยิ่งนัก ดอกจะออกเป็นกระจุกหลายๆดอกตามซอกใบและกิ่งก้านเหมือนกันทุกอย่าง แต่กลีบดอกของช้างน้าวไทยจะมีเพียงชั้นเดียวแตกต่างกันอย่างชัดเจน “ผล” รูปกลมรีมีเมล็ดเป็นสีดำ มีกลีบเลี้ยงติดอยู่ที่ปลายเมล็ดด้านหนึ่ง ดอกออกช่วงเดือนมกราคมต่อเนื่องไปจนถึงเดือนเมษายนของทุกปี ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ที่ประเทศเวียดนามเรียกว่าต้น “อองเกียเซิน” คนขายในประเทศไทยเรียกว่าต้น “มหาโชค” ในประเทศเวียดนามนอกจากจะนิยมปลูกทั่วไปแล้วยังนิยมนำเอาต้นของ “ช้างน้าวเวียดนาม” ไปปลูกเป็นต้นบอนไซอีกด้วย
ส่วนต้น ช้างน้าวไทยพบขึ้นตามป่าดิบแล้งบนเขาสูงทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพียงภาคเดียว ซึ่งในช่วงที่มีดอกอยู่ระหว่างตรุษจีนพอดีจึงถูกเรียกอีกชื่อว่า “ต้นตรุษจีน” ในช่วงดังกล่าวจะมีคนขึ้นเขาไปตัดเอากิ่งที่มีดอกติดอยู่ลงไปขายในตัวเมือง ยาวประมาณ 1-1.5 เมตร ให้คนซื้อไปปักแจกันเพื่อเป็นสิริมงคลช่วงตรุษจีน แล้วเปลี่ยนน้ำอุ่นในตอนเช้าทุกๆเช้า จะทำให้ดอกติดอยู่กับต้นหรือกิ่งก้านได้นานจนกระทั่งถึงเดือนเมษายนจึงจะร่วงโรยและแห้งตายตามกาลเวลา ซึ่งต้นช้างน้าวไทย มีสรรพคุณทางสมุนไพรคือ แก่นต้มน้ำดื่มแก้ปวดเมื่อยตามร่างกายได้ รากสดต้มน้ำดื่ม 1 แก้ว เป็นยาขับพยาธิ แก้น้ำเหลืองเสียดีมาก
...
มีต้นแท้ขายที่ ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 9 แผง “คุณหมู” ราคาสอบถามกันเองครับ.
“นายเกษตร”