จดหมายเขียนมาร้องเรียนเรื่องการทุจริตใน กรมศุลกากร บอกว่า เป็นคนที่รับราชการอยู่ในกรมศุลกากรมาเกือบ 30 ปี จนถึงวัยใกล้เกษียณ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าแล้ว
อยากให้ช่วยเป็นกระบอกเสียงแทนข้าราชการชั้นผู้น้อยอีกหลายคน
เนื่องด้วยในช่วงที่ผ่านมามีคำสั่งกรมที่ 63/2561 เรื่องคำสั่งย้ายข้าราชการ ซึ่งเป็นไปอย่างไม่เป็นธรรม และไม่สามารถตอบคำถามของคนศุลกากรได้
เป็นเรื่องที่คนสงสัย
นายในกรมศุลกากรบางคนมีภาพลักษณ์ที่สะอาด เป็นโต้โผในการต่อต้านการทุจริต ซึ่งเป็นเปลือกที่สวยงาม
แต่รถที่ใช้เป็นรถหรู มูลค่าราคาแพงมาก มีข่าวไม่ได้ซื้อเอง ถ้าเกิดการตรวจสอบจะไม่สามารถนำใบเสร็จการซื้อขายมาแสดงได้อย่างแน่นอน เพราะเป็นรถที่ผู้ประกอบการภาคเอกชนนำมามอบให้
คนร้องบอกว่ามีอนุภรรยาเข้ามาบริหารจัดการการจัดเก็บรายได้ทั้งหมด
นำคนขับรถส่วนตัว บังคับให้หน่วยงานในกรมศุลกากร ใส่ชื่อเป็นผู้จับกุมเพื่อจะได้เงินรางวัล ซึ่งคนที่ร้องมองว่าเป็นการทุจริตอย่างชัดเจน และมีหลักฐานตรวจสอบได้
คำสั่งย้ายล่าสุด เป็นการ “ล้างบาง” สำนักศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เนื่องจากไม่ยอมให้ใส่ชื่อคนขับรถในแฟ้มจับกุม
อนุภรรยามักจะมีคำสั่งตรงมายังเจ้าหน้าที่ให้อำนวยความสะดวก หรือยกเว้นการตรวจแก่ผู้โดยสารที่เป็นแม่ค้าพรีออเดอร์ ซึ่งกลุ่มข้าราชการที่ถูกย้ายมักเลือกที่จะปฏิเสธ
ก่อนคำสั่งย้ายจะออกมา มีการส่งตัวแทนมาเกลี้ยกล่อม ให้เจ้าหน้าที่รวมซองมา 1 ซอง และให้เข้ามาเคลียร์กับอนุภรรยา
แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมทำตาม
นำมาสู่การโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม
คนที่ร้องบอกว่า ได้แต่หวังว่าจะช่วยเป็นกระบอกเสียงให้พวกเรา เพราะอีกไม่กี่เดือนจะเป็นพลเรือนเต็มขั้นแล้ว แต่จากคำสั่งย้ายที่ผ่านมา ได้ถูก “ตีตราบาป” เหมือนพวกเราทำผิดร้ายแรง
คนร้องบอกว่า อยากสะท้อนให้เห็นความจริงสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อแสดงให้เห็นว่า ไม่ได้มีความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่และองค์กร และเราจะไม่ทนต่อการถูกรังแก และเอารัดเอาเปรียบจากผู้มีอำนาจฝ่ายเดียว
เป็นข้อมูลจากหนังสือร้องเรียนที่คนร้องอยากให้ผู้มีอำนาจมาตรวจสอบโดยตรง
ไม่ทราบข้อมูลจริงเท็จขนาดไหน ต้องรอตรวจสอบ.