กรมชลประทาน ย้ำพื้นที่ในเขตชลประทานมีน้ำเพียงพอใช้ตลอดแล้งนี้ ไปจนถึงเดือน ก.ค.2561 พื้นที่ทำนาปรังทรงตัว พร้อมขอความร่วมมือใช้น้ำอย่างประหยัด
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน ได้สั่งการให้โครงการชลประทานทุกแห่ง เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยแล้งและการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ง 47 จังหวัด ตามที่กรมพัฒนาที่ดินได้วิเคราะห์ไว้ กรมชลประทานได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ซึ่งในส่วนของเครื่องสูบน้ำและรถบรรทุกน้ำ ได้เตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ำไว้ตามโครงการชลประทานต่างๆ ทั่วประเทศ รวม 2,193 เครื่อง และรถบรรทุกน้ำอีก 231 คัน
ทั้งนี้ ในส่วนของการติดตามผลการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2560/2561 ทั้งประเทศ (ข้อมูล ณ 7 ก.พ. 61) พบว่ามีการเพาะปลูกไปแล้วรวม 8.45 ล้านไร่ คิดเป็น 93% ของแผนที่วางไว้ 9.05 ล้านไร่ เฉพาะข้าวนาปรัง มีการเพาะปลูกไปแล้ว 7.95 ล้านไร่ คิดเป็น 95 % ของแผนวางไว้ 8.35 ล้านไร่ โดยเฉพาะในเขตชลประทานของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้มีการเพาะปลูกไปแล้ว 5.61 ล้านไร่ คิดเป็น 107% ของแผนวางไว้ 5.23 ล้านไร่ เฉพาะข้าวนาปรัง มีการเพาะปลูกไปแล้ว 5.55 ล้านไร่ คิดเป็น 107% ของแผนที่วางไว้ 5.17 ล้านไร่
“จะเห็นได้ว่าพื้นที่เพาะปลูกข้าวรอบที่ 2 (นาปรัง) แม้ว่าจะมีการเพาะปลูกเกินแผนที่วางไว้ แต่พบว่าพื้นที่เพาะปลูกมีแนวโน้มทรงตัวและขยายตัวเพิ่มขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่รณรงค์และติดตามการเพาะปลูกให้เป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้อย่างใกล้ชิด พร้อมกับชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มเกษตรกร ถึงปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่ และต้องใช้ตามแผนจัดสรรน้ำที่ได้วางไว้ เพื่อให้มีปริมาณน้ำสำรองไว้ใช้ในอนาคตอย่างไม่ขาดแคลน”
...
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการใช้น้ำในเขตพื้นที่ชลประทานทั่วประเทศ กรมชลประทาน ขอยืนยันว่าปริมาณน้ำที่มีอยู่ในแต่ละพื้นที่ มีปริมาณเพียงพอที่สนับสนุนการใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ และการเกษตรใช้น้ำน้อยตลอดในช่วงฤดูแล้งนี้ ไปจนถึงเดือนก.ค. 61 แต่ยังคงต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้ร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาการขาดแคลนน้ำที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต.