โครงการขนมปังฝาก คือการทำบุญโดยฝากขนมปังไว้ให้คนท้อง คนป่วย คนยากไร้ กินฟรีได้ตามจำนวนที่กำหนดในแต่ละวัน ร้านตั้งอยู่หน้าคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กรุงเทพฯ

กองศักดิ์ จันทะสี หรือสมชาย อายุ 42 ปี เจ้าของร้านขนมปังเทวดา เริ่มต้นโครงการนี้สาม-สี่ปีแล้ว

สมชายแจกขนมปังฟรีให้กับสตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปผู้ป่วยไข้ทุกโรค คนยากไร้ คนพิการ ได้สิทธิ์กินฟรีคนละ 3 ชิ้น วันละไม่เกิน 150 ชิ้น

สมชายบอกถึงลักษณะคนที่มารับขนมปัง ส่วนใหญ่คนพิการมาเกือบทุกวัน

ส่วนคนยากไร้ คนจรจัด บางคนที่เดินผ่านก็ไม่กล้า สมชายก็จะเรียกให้เข้ามากิน

กรณีที่เป็นคนป่วยจะสังเกตง่าย แค่เห็นหน้าซีดๆ สมชายก็ทักทาย วันนี้เป็นยังไงบ้าง ไม่สบายหรือเปล่า แล้วให้ขนมปัง พอจะจ่ายเงินก็บอกว่า อ่านตามป้ายได้นะครับ คุณได้สิทธิ์กินฟรี ถ้าหายแล้วค่อยมาซื้อ

คนท้องส่วนใหญ่ไม่ค่อยรับ แสดงเจตนาจะซื้ออย่างเดียว

แต่ถ้าเป็นผู้สูงอายุ สมชายต้องใช้วิธีแปลกหน่อย คือต้องเรียกก่อน “สวัสดีครับคุณป้า วันนี้มีคนเอาขนมปังมาแจก วันนี้วันเดียวกินฟรีได้นะครับ” ถ้าบอกว่าแจกตรงๆเขาจะไม่ค่อยเชื่อ

...

“จากนั้นก็จะเปิดขนมปังให้ดู พอรับไปแล้วก็บอกว่าแจกฟรีทุกวันสำหรับผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป”

คนเป็นโรคไต สังเกตได้จากที่แขนเส้นเลือดออกดำ เมื่อเดินมา สมชายก็จะรู้ ส่งยิ้มทักทาย แม้เป็นคนแก่ก็ลองเรียก สาวน้อยบ้างคนสวยบ้าง “ผมอยากเห็นเขายิ้ม” สมชายว่า

แม่บ้าน, พนักงานทำความสะอาด, รปภ., คนกวาดถนนใส่เครื่องแบบ สมชายลดให้ทันทีชิ้นละ 5 บาท

วันที่คนมารับขนมปังน้อยสุดจะเป็นวันพุธ เพราะขาดคนที่เป็นโรคไตไปกลุ่มหนึ่ง วันพุธโรงพยาบาลสงฆ์จะพักเครื่องฟอกไตหนึ่งวัน

สมชายบอกว่า อาการของคนที่มารับขนมปังไปแล้ว ทุกคนยิ้มอย่างมีความสุข บางคนยกมือไหว้ พร้อมอวยพรขอให้เจริญๆ
ถึงวันนี้ขนมปังฝากมีกว่าหมื่นชิ้น ยอดบริจาคจะจดไว้ทุกบาททุกสตางค์ เพื่อไม่ให้กรรมเข้าตัวเอง

“สิ่งที่ผมทำ ไม่ได้ทำเป็นธุรกิจ แต่อยากแบ่งปันความสุข ขนมปังสามสี่ชิ้น ไม่ได้อิ่มอะไรมากมาย แต่เป็นกำลังใจให้กันได้”

“ตอนแรกโครงการนี้เกือบไม่รอด เพราะไม่มีคนช่วย” สมชายว่า “แต่ตอนนี้คนรู้จักมากขึ้น เวลาใครผ่านมาก็จะแวะเอาเงินมาให้ บอกช่วยฝากทำบุญ ส่วนใหญ่จะเดินเอามาให้ บางคนถ้ามาแล้วไม่เจอก็จะมาใหม่”

สมชายบอกว่า ส่วนใหญ่คนที่มาบริจาคจะมาพูดคุยและชื่นชมที่แบ่งปันสิ่งดีๆให้กับสังคม และขอให้ทำอย่างนี้ไปนานๆ

สมชาย จบ ป.6 จากอำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี เข้ากรุงเทพฯตั้งแต่อายุ 15 ปี ทำมาแล้วหลายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นเด็กปั๊ม คนเดินตั๋วในโรงหนัง เด็กห้องน้ำ ส่งแก๊ส จัดสวน ก่อสร้าง ขายที่นอน ผลไม้ ลูกชิ้นนึ่ง

จุดเปลี่ยนของชีวิต “ตอนนั้นขายลูกชิ้นนึ่ง ขายดีมาก กำไรวันละกว่าสองพัน” สมชายว่า “แต่วันนั้นวันเดียวโดนเทศกิจไล่ถึง 3 ที่ ไม่ได้ขาย เกิดความเครียด กลับบ้านเปิดทีวีเจอธรรมะของหลวงตามหาบัว พูดเรื่องบาปบุญคุณโทษ รู้สึกใจเย็นลง”

สมชายไปศึกษาธรรมะจากพระอาจารย์สมชาติ ธัมมโชโต สำนักปฏิบัติแสงธรรมส่องชีวิต แยกหินกอง ตำบลโคกแย้ อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี กลับมาเจออะไรก็พิจารณาธรรมไปหมด

ทำให้รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่ใช่ของเรา

แต่ชีวิตก็ต้องเดินหน้าต่อ สมชายเริ่มตั้งหลักใหม่ ขอให้เพื่อนข้างห้องเช่าที่ขายขนมปังช่วยสอนวิธีทำสังขยา เขาคิดค่าสอน 500 บาท ได้มาแค่สูตร สมชายพลิกแพลงอีกนิดหน่อย แล้วเปิดร้านชื่อขนมปังร้อนเอื้ออาทร ขายก้อนละ 5 บาท

แต่ปัญหาใหญ่ คือ ขนมปังที่นึ่ง พอเย็นตัวลง กระดาษที่ใช้ห่อก็ติดกับเนื้อขนมปัง ทำให้ลูกค้ากินไม่สะดวก ประกอบกับวัตถุดิบหลายตัวปรับราคาขึ้น จึงตัดสินใจหยุดขาย

พอกลับมาขายอีกครั้ง เปลี่ยนชื่อเป็นร้านขนมปังเทวดา

“ที่ตั้งชื่อนี้เพราะคนไทยชอบของแปลก อะไรที่แปลกจะติดตลาดเร็ว” สมชายว่า

คราวนี้เปลี่ยนกระดาษที่ใช้ห่อขนมปังมาเป็นกระดาษเคลือบมัน และค้นพบว่าทำยังไงให้ขนมปังอร่อยนุ่ม

วันนั้นเข้าหน้าหนาว จอดรถเข็นขายแถวแยกอุรุพงษ์ ลมพัดแรง ผ้าขาวผืนเดียวที่ปิดขนมปังปลิวขึ้นมา เนื้อขนมปังด้านบนแข็งหมด แต่ข้างล่างนิ่ม

...

สมชายหากระดาษกล่องมากั้นเตา แล้วยืนคิดว่า ถ้าเอาผ้าหนาๆมาคลุมขนมปังก็น่าจะดี หลังจากวันนั้นก็ใช้ผ้าหนาขึ้นจากสองผืนเพิ่มเป็นสี่ผืน ขนมปังจึงออกมานิ่ม

หลังจากขายมาได้สักระยะ ทำมาหากำไรพอเลี้ยงตัวเองได้ สมชายนึกถึงคนอยากกินแต่ไม่มีเงินซื้อกิน จึงทำป้ายติดประกาศห้อยไว้บนรถเข็น

“สตรีมีครรภ์ คนป่วยโรคไตจากโรงพยาบาลสงฆ์” กินฟรีคนละสองชิ้น

แจกไปสักพักมีทีวีช่องหนึ่งมาทำข่าว

สมชายไปปรึกษารุ่นพี่ที่กรมทางหลวงเกี่ยวกับโครงการขนมปังฝาก เพราะเคยเห็นเรื่องจากการแชร์ของเฟซบุ๊ก ว่าที่อิตาลีมีกาแฟฝาก คือมีการซื้อกาแฟแล้วฝากไว้ หากมีคนจรจัดเข้ามาก็ขอกินกาแฟที่ฝากไว้ได้ จึงอยากเอาแบบอย่าง

รุ่นพี่เห็นด้วยให้เงินมาหนึ่งร้อยบาท และบอกทำให้ดี ทำให้เต็มที่ แล้วจะดีเอง

หลังจากได้รับคำแนะนำ สมชายกลับมาทำโครงการขนมปังฝาก ถ้าขายปกติ ชิ้นละ 7 บาท แต่ถ้าเป็นโครงการฝากขนมปัง จะลดให้เหลือชิ้นละ 5 บาท เช่น ซื้อ 20 บาทจะได้สามชิ้น

แต่ถ้าร่วมทำบุญโครงการขนมปังฝากจะได้สี่ชิ้น

เมื่อต้นปี ตอนสมชายออกรายการข่าวทางทีวี มีคนโทร.มาขอหมายเลขบัญชีแล้วโอนเงินให้ 10,000 บาท เขาบอกว่าให้ใช้ส่วนตัว 5,000 บาท ทำบุญอีก 5,000 บาท

โครงการขนมปังเดินหน้ามาสามสี่ปี เคยมีคนถาม อะไรทำให้คิดได้อย่างนี้ สมชายฟื้นความหลังแล้วนึกขึ้นได้ว่า “เคยหิวมาก่อน”

ตอนเด็กๆคนอีสานแถวบ้านที่ไปทำงานที่ซาอุฯ กลับมาก็มีเงินเขาก็ไปซื้อลูกตาลให้ลูกกิน แต่บังเอิญลูกตาลลูกนั้นแก่ กินไม่ได้ เขาก็โยนทิ้ง

“ผมอยากกิน แต่ไม่เคยมีเงินซื้อกิน” สมชายว่า “ยืนมอง แต่ตอนนั้นยังไม่กล้า อีกสองวันไปเห็นเป็ดกำลังแทะกินพอดี ผมแย่งเอามาล้าง แล้วใช้มีดขูดกิน”

...

“ผมรู้ดีความหิวเป็นยังไง พอเรามีโอกาสที่จะให้ เราก็อยากจะให้”

สมชายยังเปิดสอนสูตรขนมปังฟรี ตอนนี้คนติดต่อเข้ามามากขึ้น หลังปีใหม่จะจัดเวลาให้มาเรียนพร้อมกันสามถึงสี่คน เรียนพร้อมกันหลายคนสนุกกว่า ให้ลงมือทำจริง ให้ลองหั่น ลองทาขนมปัง ค่อยๆบอกทีละอย่าง

คนที่เรียนจบอยากเปิดร้าน เสาร์อาทิตย์เป็นวันหยุด สมชายก็จะพาไปซื้ออุปกรณ์

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา มีคนติดต่อให้สมชายไปแจกขนมปัง ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตลอดทั้งวันนั้นแจกขนมปังไป 650 ชิ้น

ก่อนกลับ คุณดรุณี มนัสวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 มอบเกียรติบัตรให้ ในเกียรติบัตรนั้นเขียนว่า ศูนย์ช่วยเหลือสังคมขอมอบเกียรติบัตรนี้ไว้เพื่อแสดงว่า นายกองศักดิ์ จันทะสี ร้านขนมปังเทวดา เป็นผู้สนับสนุนกิจกรรมวันปีใหม่ 2561 ให้กับศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300

“นี่เป็นเกียรติบัตรใบแรกในชีวิต” สมชายว่า สุ้มเสียงเขามีความภาคภูมิใจอยู่ไม่น้อย.