สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ สัปดาห์นี้มีเรื่องที่น่าสนใจอีกหนึ่งเรื่องครับ ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่ผมได้มีโอกาสช่วยเหลือผู้เสียหายรายหนึ่ง ในคดีอาญา ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง และเป็นความโชคดีของผู้เสียหายที่ฝ่ายโจทก์เข้าใจ และเชื่อในคำอธิบายของผู้เสียหาย ประกอบกับทนายโจทก์มีคุณธรรมในวิชาชีพ ช่วยอธิบายถึงลักษณะคดีให้โจทก์เข้าใจ จนคดีความจบลงด้วยการถอนฟ้องในที่สุด และเรื่องแบบนี้อาจจะเกิดขึ้นกับทุกคนได้ครับ หากท่านไม่มีวิธีการจัดการที่ดีท่านอาจจะตกเป็นจำเลยในคดีอาญาได้ครับ

ผมจึงอยากจะนำเหตุการณ์นี้มาเล่าเป็นอุทาหรณ์ เพื่อเตือนภัยให้กับท่านผู้อ่านที่อาจจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพโดยไม่รู้ตัว รวมไปถึงแนะนำวิธีการที่จะป้องกันตัวท่านเองหากประสบกับเหตุการณ์ในลักษณะนี้

คดีนี้โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทั้งสาม เป็นคดีอาญา ในข้อหาร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ ใช้เอกสารสิทธิปลอม และร่วมกันฉ้อโกง พฤติการณ์แห่งคดีนี้ โจทก์เป็นเจ้าของกิจการจำหน่ายสุรา จำเลยที่หนึ่ง และจำเลยที่สอง เคยทำงานในแผนกบัญชีของบริษัทโจทก์ โดยจำเลยที่หนึ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายบัญชี ส่วนจำเลยที่สองเป็นพนักงานในฝ่ายบัญชี จำเลยที่สามเป็นเพื่อนสนิทของจำเลยที่หนึ่ง 

ต่อมาจำเลยที่สองลาออกจากบริษัทโจทก์ ผ่านไปประมาณห้าปี จำเลยที่หนึ่งโทรศัพท์มาแจ้งจำเลยที่สองว่า "ขายรถไปหนึ่งคันและได้ให้ผู้ซื้อโอนเงินเข้าบัญชีของจำเลยที่สองแทน จำนวนเงิน 400,000 บาทเศษ เนื่องจากสมุดบัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็มหาย" จำเลยที่หนึ่งจึงขอให้จำเลยที่สองโอนเงินคืนให้แก่จำเลยที่หนึ่ง และยังกำชับอีกว่า "ให้ถอนเงินสดออกมาก่อน แล้วค่อยฝากเงินผ่านตู้ฝากเงินอัตโนมัติเท่านั้น" แต่ในวันดังกล่าวมีคนเข้าคิวรอฝากเงินที่ตู้ฝากเงินอัตโนมัติเป็นจำนวนมาก จำเลยที่สองจึงตัดสินใจฝ่าฝืนคำสั่งของจำเลยที่หนึ่ง โดยการโอนเงินจากบัญชีธนาคารของจำเลยที่สองเข้าสู่บัญชีธนาคารของจำเลยที่หนึ่ง 

...

ผ่านไปประมาณหนึ่งปี โจทก์พบพิรุธในการจัดทำเอกสารของจำเลยที่หนึ่งจึงสั่งการให้มีการตรวจสอบหลักฐานภายในของบริษัท จนพบว่ามีการแก้ไขชื่อผู้รับเงินในเช็คที่โจทก์สั่งจ่ายให้แก่คู่ค้า โดยจำเลยที่หนึ่งเป็นผู้แก้ไขชื่อผู้รับเงินให้เป็นชื่อของจำเลยที่สอง บางส่วนแก้ไขเป็นชื่อของจำเลยที่สาม และจำเลยที่หนึ่งได้นำเช็คดังกล่าวฝากเข้าบัญชีของจำเลยที่สอง และจำเลยที่สาม 

เมื่อหลักฐานปรากฏชัดว่ามีการแก้ไขเอกสารและปลอมลายมือชื่อของกรรมการโจทก์ เพื่อเซ็นกำกับเช็คที่มีการแก้ไข โจทก์จึงมอบหมายให้ทนายความดำเนินการฟ้องคดีจำเลยทั้งสาม ข้อหาร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ ใช้เอกสารสิทธิปลอม และร่วมกันฉ้อโกง 

ในวันนัดไต่สวนมูลฟ้อง โจทก์ ทนายโจทก์ จำเลยที่สอง ทนายจำเลยที่สอง และจำเลยที่สามมาศาล ส่วนจำเลยที่หนึ่งทราบนัดโดยชอบแล้ว ไม่มาศาล ในวันดังกล่าวศาลได้โปรดเจรจาไกล่เกลี่ย และให้โจทก์ กับจำเลยที่สอง และจำเลยที่สามได้ปรับความเข้าใจกัน เปิดใจกว้าง อธิบายข้อเท็จจริง ด้วยเหตุและผล โดยจำเลยที่สองได้อธิบายถึงเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น พร้อมกับแสดงหลักฐานการโอนเงินจากบัญชีธนาคารของจำเลยที่สองเข้าสู่บัญชีของจำเลยที่หนึ่ง และอธิบายถึงสาเหตุที่จำเลยที่หนึ่งทราบเลขที่บัญชีธนาคารของจำเลยที่สอง เนื่องมาจากจำเลยที่หนึ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายบัญชี จึงทราบเลขที่บัญชีธนาคารของพนักงานทุกคนในบริษัทโจทก์ เมื่อโจทก์ได้ปรับความเข้าใจกับจำเลยที่สองแล้ว ก็ได้ถอนฟ้องจำเลยที่สองในวันดังกล่าว 

สำหรับจำเลยที่สามอ้างว่า เมื่อได้รับโอนเงินจากจำเลยที่หนึ่งแล้ว ก็ได้ถอนเป็นเงินสดส่งมอบให้แก่จำเลยที่หนึ่ง โดยไม่มีหลักฐานการรับเงินจากจำเลยที่หนึ่ง และไม่มีพยานยืนยันว่า ได้มีการส่งมอบเงินให้แก่จำเลยที่หนึ่งจริงหรือไม่ ส่งมอบให้เป็นจำนวนเงินเท่าใด คดีนี้คำให้การของจำเลยที่สามจึงไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะให้โจทก์และศาลเชื่อว่าได้มีการส่งมอบเงินให้แก่จำเลยที่หนึ่งจริง จำเลยที่สามจึงจำเป็นจะต้องหาเงินมาคืนให้แก่โจทก์ จนมีครบจำนวน เพื่อแลกกับอิสรภาพ และความสบายใจที่ต้องตกเป็นจำเลยในคดีอาญา เอาเวลาที่จะต้องขึ้นโรงขึ้นศาลไปทำมาหากินจะเป็นประโยชน์กว่า 

คดีนี้จึงเป็นบทเรียนให้แก่จำเลยที่สาม ทำให้รู้ว่า “คนที่เราไว้ใจ สุดท้าย คือ ร้ายที่สุด” และเป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกท่านได้เป็นอย่างดีครับ การที่มีบุคคลอื่นโอนเงินเข้าบัญชีของเรา โดยที่ไม่ทราบที่มาที่ไป และแม้จะได้รับอนุญาตจากท่านหรือไม่ก็ตาม ท่านควรระมัดระวังเป็นพิเศษ รวมไปถึงควรจะหาพยานหลักฐานต่างๆ เช่น พยานบุคคล หรือภาพถ่ายขณะส่งมอบเงิน หรือหลักฐานการโอนเงินเข้าสู่บัญชี หากเป็นกระดาษที่ปริ้นท์ออกมาจากเครื่องเอทีเอ็ม ควรถ่ายภาพเก็บไว้ เนื่องจากข้อความในสลิปดังกล่าว อาจจะเลือนหายไปได้โดยง่าย หรือข้อความสนทนาทุกช่องทาง ไม่ว่าจะอยู่ในรูปของลายลักษณ์อักษร หรือไฟล์เสียง เพื่อเป็นการป้องกันตัวท่านเอง และป้องกันความยุ่งยากที่จะเกิดขึ้นในอนาคตครับ

...

สำหรับใครที่มีคำถามข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายและต้องการความช่วยเหลือ หรือมีเรื่องราวดีๆ อยากแบ่งปันประสบการณ์ เมลมาหาผมได้ที่ “คุยกับคนดัง” talktoceleb@trendvg3.com ได้เลยครับ
Facebook: ทนายเจมส์ LK