สุวิทย์ เมษินทรีย์

อัดฉีดงบผ่านกองทุนหมู่บ้านช่วยภาคเกษตร อัพเกรดโอทอป-เอสเอ็มอี

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เปิดเผยหลังประชุมผู้บริหาร วท.ว่า ตนมีเวลาในการทำงานประมาณ 1 ปี ดังนั้น จะไม่มีการปรับโครงสร้างกระทรวงใหม่ แต่จะมี การปรับวิธีการทำงาน และวัฒนธรรมการทำงานใหม่ โดยมีเป้าหมายใหม่ คือการสร้างประเทศไทยเป็น 4.0 โดยจากนี้จะมีตัวชี้วัดการทำงานของกระทรวงและคนว่าคุ้มค่ากับงบประมาณที่รัฐจัดสรรให้หรือไม่ ส่วนโครงการขนาดใหญ่ที่ วท.ดำเนินการอยู่ทั้งพิพิธภัณฑ์พระรามเก้า หรือการจัดสร้างศูนย์นวัตกรรมแห่งอนาคต หรือฟิวเจอร์เรียม ก็ต้องดำเนินการ เพราะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจทางวิทยาศาสตร์ให้กับคนในประเทศ โดยจะได้ดึงนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาช่วยด้วย

รมว.วท.กล่าวต่อว่า งานแรกที่ วท.จะดำเนินการ คือการนำ วทน. ไปช่วยเหลือภาคการเกษตร ประเทศไทย มีคนจนประมาณ 70-80% เพราะฉะนั้นต้องมีการนำงบประมาณผ่านโครงการต่างๆที่กระทรวงจะเข้าไปช่วยเหลือภาคการเกษตรให้พึ่งพาสภาพดินฟ้าอากาศให้น้อยที่สุด โดยใช้กลไกอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ทำร่วมกับมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เข้าไปช่วยเหลือเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ นอกจากนี้ จะใช้กลไกของ กองทุนหมู่บ้าน และเงินกู้เอดีบี เข้าไปช่วยเหลือ โดยเฉพาะเรื่องของน้ำ ปศุสัตว์ แมลง เป็นต้น เช่น ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถ้าแก้เรื่องน้ำได้ ชาวบ้านจะไม่ยากจน นอกจากนี้ จะมีการเพิ่มศักยภาพสินค้าโอทอปของประเทศ ที่มีอยู่ประมาณ 3-4 หมื่นตัว ผ่านโครงการโอทอปอัพเกรด โดยนำ วทน.เข้าไปช่วยเพิ่มมูลค่า ตั้งแต่เรื่องสินค้า การแปรรูปแพ็กเกจจิ้ง รวมทั้งยกระดับเอสเอ็มอีให้สามารถแข่งขันในเวทีโลกได้ โดยจะนำผู้ประกอบการรายใหญ่กับรายย่อยมาร่วมมือกันทำในเรื่องของอาหาร การแพทย์ วัตถุชีวภาพ วัคซีน เป็นต้น ที่สำคัญจะมีการส่งการธุรกิจสตาร์ตอัพ ที่ถือเป็นกองทัพเศรษฐกิจในอนาคต โดยจะมีการกระจายธุรกิจสตาร์ตอัพ ไม่ให้กระจุกอยู่แต่ในเมือง

...

นายสุวิทย์กล่าวอีกว่า แต่สิ่งสำคัญที่ตนอยากจะเน้นมากที่สุดคือ การสร้างคนให้ไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 เพื่อเตรียมพร้อมในการเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 และไปสู่การเป็นประเทศโลกที่ 1 ให้ได้ คนไทยต้องรักดี ขับเคลื่อนสังคมด้วยปัญญา ซึ่งจะเป็นการสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นด้วย.