ทันทีที่ทราบจากที่ประชุมข่าวในเช้าวันอังคารที่ผ่านมาว่า UNESCO : องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ มีมติให้ประกาศยกย่อง นายกำพล วัชรพล อดีตผู้อำนวยการหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐที่มียอดจำหน่ายสูงสุด โรงเรียนไทยรัฐวิทยาเพื่อชุมชนในชนบท และมูลนิธิไทยรัฐเพื่อดูแลครู นักเรียน ในโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 101 แห่ง
ทั่วประเทศ ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านสื่อสารมวลชน และการศึกษา
สามัญชนคนหนังสือพิมพ์เพียงคนเดียวของเอเชียที่องค์การยูเนสโกให้รางวัลทรงเกียรตินี้จากผลงานที่ ผอ.กำพลทำมาและได้รับการสืบสานปณิธานต่อจนถึงปัจจุบันจากทายาทของเขา
สิ่งที่พนักงานหลายคนของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐเกิดความรู้สึกเหมือนๆกันเมื่อได้รับทราบข่าวนี้ก็คือ ขนลุกไปทั้งตัวก่อนที่ความรู้สึกต่างๆ จะค่อยๆพรั่งพรูออกมาทั้งความปีติยินดี สุขใจ และภาคภูมิใจที่ไม่เคย คิดผิดเลยเมื่อสมัครเข้ามาเป็นพนักงานใต้ร่มชายคาของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และมีเจ้านายที่ไม่ใช่แต่พวกเราเท่านั้นที่เห็นว่า เขาเป็นคนดี
หากแต่ตัวแทนของคนทั้งโลกในองค์การสหประชาชาติ ก็เห็นแบบเดียวกันกับเราด้วย
ย้อนหลังไปเมื่อ 38 ปีก่อน เมื่อสมัครเข้ามาเป็นคนข่าวของแผนกข่าวการเมือง กองบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ขณะยังเป็นนักข่าวใหม่ๆ ไปยืนรอรถโรงพิมพ์ที่หน้าตึกตรงโอปะเรเตอร์ อันเป็นที่ที่ ผอ.กำพลมักจะยืนทักทายพนักงานที่ผ่านไปมา และพูดคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ในกอง บก.
ระหว่างรอรถไปส่งกระทรวงที่ถูกสั่งให้ไปประจำการ ก็มักจะมีโอกาสได้ฟังพวกผู้ใหญ่คุยกันเรื่องการเมืองไปด้วย แต่ครั้งหนึ่ง ก่อนจะเดินไปขึ้นรถ ผอ.กำพลหันมาพูดด้วยเหมือนเป็นคำสั่งว่า “เธอก็เหมือนกัน เธออย่าไปกลัวนักการเมืองนะ”...คำตอบหนักแน่นออกจากปากไปทันทีว่า ค่ะ!
จริงๆเราไม่ได้สนใจคำตอบของตัวสักเท่าใด สนใจก็แต่คำพูดของผู้เป็นเจ้านายสูงสุดขณะนั้นว่า นั่นคือคำสั่งสอน และการให้กำลังใจที่ดีที่สุดที่เด็กใหม่คนหนึ่งจะได้รับ และนำมาเป็นหลักยึดมั่นในการทำงานตลอดมา
จากนั้น เราก็มีโอกาสได้สัมผัสกับความเป็นเจ้านายของ ผอ.กำพล ที่รักลูกน้องทั้งโรงพิมพ์ ตั้งแต่ช่างแท่น คนรถ พ่อบ้าน—แม่บ้าน คนสวน โอปะเรเตอร์ จนถึงผู้คนในกองบรรณาธิการและแม้ ผอ.จะเคยสั่งสอนว่าไม่ต้องกลัวนักการเมือง แต่ ผอ.ก็สุภาพ ให้เกียรติแก่นักการเมืองทุกพรรค และคนทุกคน แม้แต่ในหมู่คนหนังสือพิมพ์ด้วยกันเอง ผอ.ก็ไม่ประสงค์จะให้มีการโต้เถียงใคร
ในช่วงที่บ้านเมืองมีวิกฤตการณ์ต้องวางกำลังนักข่าวเฝ้าสังเกตการณ์-ทำข่าวถ่ายภาพในจุดสำคัญๆต่อเนื่องกันหลายวัน ตั้งแต่ครั้งที่มีผู้ก่อการร้ายจี้เครื่องบินอินโดนีเซียมาลงสนามบินดอนเมือง เพื่อเติมน้ำมันก่อนจะบินต่อไปยังจุดหมายปลายทาง หรือมีการปฏิวัติรัฐประหารกี่ครั้งก็ตาม คนที่ทำหน้าที่ออกไปเยี่ยมเยียนนักข่าวในภาคสนาม และส่งข้าวห่อ น้ำ กับเสบียงกรังอยู่ตลอดเวลา ก็คือ ผอ.กำพล นี่เอง
และในเวลา ที่พี่น้องคนไทยหลายจังหวัดประสบเหตุวาตภัย หรือเหตุการณ์ใดๆที่เป็นความเดือดร้อน ผอ.กำพลจะสั่งให้คนไทยรัฐทุกฝ่ายระดมทุน และสรรพกำลังทั้งหมด เพื่อจัดถุงยังชีพออกไปช่วยเหลือประชาชนที่กำลังตกทุกข์ได้ยากโดยเร็ว โดยมีคุณหญิงประณีตศิลป์ วัชรพล เป็นหัวเรือใหญ่ในการบรรจุเครื่องอุปโภค-บริโภคใส่ลงในถุงยังชีพ
อย่างไรก็ตาม การทำให้ไทยรัฐเป็นหนังสือพิมพ์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในประเทศ และอาเซียน รวมทั้งการเป็นต้นแบบของคนหนังสือพิมพ์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดได้นั้น มาจากการทำงานอย่างหนักของ ผอ.กำพล ภายใต้อุดมคติที่ ผอ.ยึดมั่น และสอนพวกเรามาตลอดว่า “ไม่มีความยากจนในหมู่คนขยัน”
เพราะอย่างนี้ ผอ.กำพลจึงกางเตียงพลาสติกนอนใต้บันได ไม่ก็หลังโอปะเรเตอร์เสมอ เพื่อรอหนังสือพิมพ์ออก จะได้ไปขายเองกับมือที่หน้าแท่น แล้วเรียกเด็กขายพวงมาลัยมาเอาส่วนต่างจากการขายหนังสือพิมพ์ที่สูงกว่าจากไทยรัฐไปเป็นที่คึกคักสนุกสนานกันทั้งคนซื้อ และคนขาย
เรื่องเล่าของ “จอมคนหนังสือพิมพ์” ผู้นี้ จริงๆมีมากมายไม่รู้จบ เรื่องราวของเขาจะได้รับการเผยแพร่ และตีแผ่ออกมาต่อเนื่องในโอกาสที่ ไทยรัฐ กรุ๊ป จะเฉลิมฉลอง 100 ปีชาตกาล ผอ.กำพล วัชรพล ที่จะมีอายุครบ 100 ปีในช่วงระหว่าง พ.ศ.2561-2562
ศึกษาคนดีจากอดีต เพื่อทำปัจจุบันของเราให้ดีที่สุด...ก็พอ.
แสงทิพย์ ยิ้มละมัย