ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ได้รวบรวมเหตุการณ์สุดโป๊ะแตกของร่างทรงที่อ้างว่าถูกสิ่งลี้ลับสิงอยู่ในร่างกายก่อนอาสาปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายเพื่อให้กลับมาอยู่เย็นเป็นสุขเหมือนเคย แต่สุดท้ายเหตุการณ์กลับตาลปัตรเมื่อพบว่าแท้จริงแล้ว เป็นเพียงความหลอกลวงเรียกความเชื่อความศรัทธาและเงินทอง จนบางคนถึงกับหมดตัวจากการเชื่อร่างทรงเหล่านี้ จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น ติดตามได้นับแต่บรรทัดนี้...
โป๊ะแตก! ร่างทรงอ้างลูกสาวเข้าสิง แต่ดันจำพ่อตัวเองไม่ได้
คดีสะเทือนขวัญอุ้มฆ่า น.ส.พลอยนรินทร์ ผลิผล หรือ “น้องพลอย” ที่หายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อปี 57 กระทั่ง เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตามจับกุมตัว นายพลกฤต วิเศษ อดีตทหารยศสิบเอก โดยรับสารภาพว่า อุ้มฆ่าเผาน้องพลอยทิ้งไว้ที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
และระหว่างที่ได้มีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น จู่ๆ มีชาวบ้านหญิงรายหนึ่งมีอาการผิดปกติคล้ายคนถูกผีเข้า โดยบอกว่าตนคือน้องพลอย และได้เรียกหาพ่อแม่ พร้อมกับบอกว่า “แม่จ๋า มันขังหนูอยู่ตรงนั้น มีน้ำด้วย หนูคิดถึงแม่ เอาหนูไปอยู่ด้วยนะแม่ ของที่คนร้ายเอาไปให้ตามกลับคืนมาด้วย” ด้านแม่ได้ถามว่าใช่น้องพลอยหรือเปล่า และโผกอดร่างทรงก่อนพูดปลอบใจ
อย่างไรก็ตาม แม่ของน้องพลอยได้ออกมาเปิดเผยผ่านรายการหนึ่ง ระบุว่า “แม่ไม่เคยรู้จักร่างทรงคนนี้ และไม่เชื่อว่าเป็นน้องพลอย เพราะเขาจำพ่อตัวเองไม่ได้ จากไป 3 ปีจะจำพ่อตัวเองไม่ได้เลยหรอ แล้วการกอดพ่อจะไม่มีท่าทางการกอดแบบนี้ และการพูดน้องนั้น น้องพลอยจะไม่พูด ‘หนู’ แต่จะแทนตัวเองว่า ‘น้องพลอย’ แต่เวลานั้นเราก็ต้องปลอบใจเขาไปตามเรื่อง จะให้ไปว่าเขามันก็ไม่ใช่”
...
ร่างทรง แนะ รื้อบ้านคร่อมต้นตะเคียน เจ้าของยอมลงทุน 2 แสนจนหมดตัว กลับเจอต้นยูคาฯ
เรื่องราวครั้งนี้ เกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่งใน จ.กำแพงเพชร โดยเป็นบ้านของนายจำรวน และนางทองปิ่น มุกดา ลักษณะของบ้านเป็นบ้านปูนชั้นเดียว หลังปลูกสร้างเสร็จได้เข้าอยู่อาศัย แต่ได้เกิดเหตุการณ์ไม่ดีกับคนในบ้านหลายเรื่อง ทั้งอาการป่วยของลูกชายที่เจ็บป่วยออดๆ แอดๆ มานานไม่หาย หรือการทำกิจการอะไรก็ไม่สำเร็จ จึงเดินทางไปหาร่างทรงที่เพื่อนบ้านแนะนำ เพื่อหาทางปัดเป่าแก้ไข
ด้านร่างทรงได้ทักสองสามีภรรยาคู่นี้ว่า ได้ปลูกบ้านคร่อมต้นตะเคียน และมีพญานาคด้วยอีก 2 ตน และแนะนำให้รื้อบ้านออกเพื่อขุดต้นตะเคียนขึ้นมาทำพิธีให้ถูกต้อง จะค้าขายร่ำรวย ที่เจ็บป่วยจะหายป่วย
ด้วยความเชื่อความศรัทธาและอยากแก้ไขให้ชีวิตดีขึ้น ต่อมา ทั้งคู่จึงได้จ้างรถแบ็กโฮมาขุด โดยเริ่มขุดตั้งแต่เวลา 09.09 น. แต่ขุดลึกลงไปประมาณ 2.5 เมตร กว้างประมาณ 1 งาน แล้วยังไม่พบต้นตะเคียนดังกล่าว วันต่อมา ได้ขุดดินในหน้างานกว้างประมาณ 1 งาน ลึกลงไปร่วม 3 เมตร ได้ตอไม้ขึ้นมาหลายตอ แต่ปรากฏว่า เป็น “ตอไม้ยูคาลิปตัส” ไม่ใช่ “ตอตะเคียน” หรือต้นตะเคียนตามที่ร่างทรงได้บอก จนในที่สุดจึงเลิกขุดเป็นอันจบสิ้นกระบวนการรื้อบ้านเพื่อหาต้นตะเคียน หลังจากเจ้าของลงทุนรื้อบ้านปูนชั้นเดียว มูลค่าร่วม 200,000 บาท
ขณะที่ ร่างทรงคนเดิม อ้างต่อว่า ตอไม้ยูคาลิปตัสที่ขุดพบเหล่านี้ คือ บริวารของเจ้าแม่ตะเคียนนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม นางทองปิ่น เผยว่า “หลังมีการทุบบ้านไป ยอมรับว่าทำเอาหมดเนื้อหมดตัวและไม่มีทุนในการจะจ้างขุดต่อแล้ว ไม่มีเงินสร้างบ้านหลังใหม่ และขณะนี้ไม่สามารถติดต่อร่างทรงได้อีกเลย ส่วนเรื่องที่อยู่ตอนนี้ก็อาศัยอยู่กับพ่อแม่ไปก่อน"
...
ร่างทรงลวงโลก อ้างรักษาสารพัดโรค ล้มป่วยซะเอง ตามคำแช่ง ‘พ่อคูณ’
เรื่องราวเกิดขึ้นใน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้มีชายคนหนึ่งเปิดสำนักรับรักษาโรคร้ายสารพัดชนิด อ้างเป็นร่างทรงของสมเด็จพระนารายณ์ มีชาวบ้านแตกตื่นหลงเชื่อมารักษาหลายร้อยคน โดยวิธีการรักษาเพียงแค่เป่าลมปากตามร่างกายในส่วนที่ปวดเมื่อย บีบนวดและใช้เท้าเหยียบไปพร้อมๆ กัน แถมยังให้น้ำไปดื่มกินแทนยา อ้างว่าเป็นน้ำมนต์ปลุกเสกอย่างดี อีกทั้งระหว่างรักษามีโฆษกคอยประกาศเชิญชวนให้ผู้มารักษาบริจาคเงินสร้างตำหนักได้เงินเข้ากระเป๋าครั้งละร่วมหมื่นบาท
ขณะเดียวกัน หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดบ้านไร่ ได้สาปแช่งแก๊งลวงโลก “ขอให้แก๊งพวกนี้มีอันเป็นไป เป็นโรคร้ายต่างๆ ตามที่หลอกลวงชาวบ้านไว้”
วันต่อมา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่สำนักร่างทรงดังกล่าว พบว่ามีแต่ความเงียบเหงาวังเวง ผิดกับวันก่อนที่มีคนรอเข้าคิวรักษาอย่างแน่นขนัดไปทั่วบริเวณบ้าน เมื่อสอบถามไปยังเจ้าของบ้าน ได้ความว่า ร่างทรงผู้อื้อฉาวได้หอบเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้เดินทางกลับกรุงเทพฯ แล้ว ตั้งแต่เมื่อคืน สาเหตุเนื่องมาจากร่างทรงคนดังกล่าวได้ล้มป่วยอย่างกะทันหัน
...
เหนือฟ้า แต่ไม่เหนือคุก! อาจารย์สาว ผันตัวเป็นร่างทรง ลวงถวายพานครูจนหมดตัว
สาวองค์การโทรศัพท์ชอบปฏิบัติธรรมถือศีลกินเจ เดินทางไป จ.ขอนแก่น เจอ “หลวงปู่ฟ้าเหนือฟ้า” ร่างทรงอาจารย์สาวระดับซี 6 วัย 50 ปี แรกพบหน้าโดนทักดวงกำลังตก ประสบเคราะห์ร้ายเกิดอุบัติเหตุ วิธีแก้ไขต้องนั่งสมาธิและถวายพานครูหมดตัว หมายความว่า มีทรัพย์สินติดตัวเท่าไรต้องถอดออกมาถวายให้หมด!
ก่อนนั่งสมาธิร่างทรงได้เอาของเหลวไม่ทราบชนิดมาให้ดื่ม ระหว่างที่นั่งรู้สึกเบลอไม่รับรู้อะไร โดยมารู้ตัวอีกทีตอนกลับถึงบ้าน และทราบภายหลังว่าทรัพย์สินหายจนหมดตัว จึงไปแจ้งความ
ด้าน ร่างทรงซี 6 ที่สถาปนาตัวเองเป็น “หลวงปู่ฟ้าเหนือฟ้า” ประทับทรงแก้บาปเคราะห์ เผยว่า ผู้เสียหายสมัครใจนำมาให้เองโดยที่ตนไม่ได้เรียกร้อง ซึ่งตนมีหลักฐานยืนยันเป็นหนังสือยินยอมมอบให้ ถ้ามาเอากลับคืนไปตนไม่ได้ว่าอะไร อย่างไรก็ตาม หลังจากสอบสวนตำรวจได้นำตัวร่างทรงและลูกศิษย์อีก 2 คนเข้าห้องขัง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.