เห็นชาวบ้านในพื้นที่ภาคอีสานต้องระทมทุกข์ ดิ้นรนต่อสู้กับภัยน้ำท่วมจากพายุเซินกาแล้วเศร้าใจ ช่วยลุ้นให้น้ำบางพื้นที่ขึ้นสูงเป็นเมตรลดลงซะที

แต่ในความเดือดร้อนทุกครั้งยังมีเรื่องดีๆที่เห็น นอกจาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากภาครัฐ จะมีภาคเอกชนและประชาชน รวมกลุ่มกันลงไปช่วยเหลือหลายรูปแบบด้วยทรัพย์สินส่วนตัว...

ส่วนจะช่วยเหลือได้มากบ้างน้อยบ้างก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยไปให้เห็นหน้าค่าตาเป็นกำลังใจว่า...

“คนไทยไม่ทิ้งกัน”?

อันนี้เป็นเรื่องดีแบบไทยๆที่เห็นกันมานาน แสดงถึงความเอื้ออาทรของเพื่อนร่วมชาติ

แต่ระหว่างการส่งแรงกายแรงใจลุ้นภัยธรรมชาติครั้งนี้ กลับมีอีกมุมนึงที่น่ารังเกียจ?

เรียกว่าซ้ำเติมกันก็ว่าได้!

เมื่อมีนักเลงคีย์บอร์ด 2 คน โพสต์คำพูดดูถูกเหยียดหยามซ้ำเติมผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ผมถือว่าเป็นเรื่องรับไม่ได้...

นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ทนไม่ไหวเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เปิดเพจเฟซบุ๊กชื่อ “Wiroj Rangnol” และ “Amnuay Huakard”

ข้อหาหมิ่นประมาทคนอีสาน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326

แถมโกรธจัดขนาดตรวจสอบข้อมูลมาให้ตำรวจ สภ.เมืองอุบลราชธานี ด้วยว่า ผู้เปิดเฟซบุ๊กในชื่อ “Wiroj Rangnol” คือ นายวิโรจน์ ร่างน้อย อยู่เลขที่ 29/7 หมู่ 3 ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง

ส่วนเจ้าของเพจ “Amnuay Huakard” ปิดเพจหนีไปแล้ว!

แต่เชื่อเถอะหนียังไงก็หนีไม่พ้นหรอกครับ ผมเคยเตือนไปหลายร้อยรอบแล้วว่า สิ่งที่เราโพสต์ลงไปในอินเตอร์เน็ตถึงจะลบไปแล้ว แต่มันไม่หายไปไหน...

สักวันหนึ่งใครไปขุดเจอสามารถเอากลับมาประจานตัวเราเองได้อีก

สำหรับหนุ่มคะนอง 2 คนนี้ อีกไม่นานอาญาแผ่นดินจะต้องตามไปหลอกหลอนเอาตัวมาดำเนินคดีแน่

...

เป็นอุทาหรณ์ครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้สำหรับนักเลงคีย์บอร์ด

คนเค้าเดือดร้อนหลักแสนหลักล้านยังไปซ้ำเติมอีก สมควรถูกดำเนินคดีจริงๆ?

สหบาท