การเคหะแห่งชาติเดินหน้าส่งมอบที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบาง ภายใต้โครงการปรับปรุงหรือสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบาง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน (บ้านสบายเพื่อยายตา) ประจำปี 2568 โดยดำเนินการในพื้นที่ 9 จังหวัด รวมจำนวนทั้งสิ้น 29 หลัง
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติมีภารกิจในการพัฒนาและจัดสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในชุมชน รวมถึงการให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติแสดงความห่วงใยประชาชนอย่างต่อเนื่องผ่านการดำเนินงานภายใต้โครงการปรับปรุงหรือสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบาง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน (บ้านสบายเพื่อยายตา) โดยการปรับปรุงซ่อมแซมหรือจัดสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ทั้งหลัง รวมถึงการปรับปรุงสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยให้เหมาะสม สอดคล้องกับความต้องการและคุณลักษณะเฉพาะของผู้อยู่อาศัย เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตด้านการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อยและผู้ยากไร้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป รวมถึงคนพิการและเด็กให้สามารถอยู่อาศัยได้อย่างปกติสุขในชุมชนเดิม ตลอดจนเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กรด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR)
...
โครงการ “บ้านสบายเพื่อยายตา” ดำเนินการครั้งแรกเมื่อปี 2553 ณ ตำบลบางตะบูน อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี และได้ขยายผลอย่างต่อเนื่องไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยในช่วงปี 2553–2567 การเคหะแห่งชาติได้ดำเนินการปรับปรุง ซ่อมแซม และสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ รวมทั้งสิ้น 540 หลัง แบ่งเป็นการปรับปรุงซ่อมแซมตามสภาพ จำนวน 399 หลัง และการสร้างใหม่ จำนวน 141 หลัง สำหรับปี 2568 การเคหะแห่งชาติได้ดำเนินการปรับปรุงและสร้างที่อยู่อาศัย จำนวน 29 หลัง ในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี ลพบุรี นครสวรรค์ ระนอง กาฬสินธุ์ สระแก้ว อุตรดิตถ์ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน โดยแบ่งเป็นการปรับปรุงซ่อมแซม จำนวน 15 ราย และการจัดสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ จำนวน 14 ราย ทั้งนี้ การเคหะแห่งชาติสนับสนุนงบประมาณในรูปแบบเงินบริจาคให้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มเปราะบางที่ผ่านการคัดเลือกจากประชาคมท้องถิ่น ภายใต้หลักเกณฑ์ที่กำหนด โดยการปรับปรุงซ่อมแซมใช้งบประมาณไม่เกิน 100,000 บาทต่อหลัง และการสร้างใหม่ใช้งบประมาณไม่เกิน 130,000 บาทต่อหลัง เพื่อให้ที่อยู่อาศัยมีความถูกสุขลักษณะ ปลอดภัย และเหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงของผู้สูงอายุ การดำเนินงานเป็นไปด้วยความร่วมมือแบบบูรณาการกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) นิคมสร้างตนเอง กรมกิจการเด็กและเยาวชน และมูลนิธิเคหะสงเคราะห์ รวมถึงผู้รับจ้างและจิตอาสาในพื้นที่ร่วมกันปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยจนแล้วเสร็จ
นายทวีพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่การเคหะแห่งชาติภาคภูมิใจในการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม และสอดคล้องกับนโยบาย “พม. ใกล้คุณ” ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ผ่านการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุมชน และเมือง โดยบูรณาการด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สวัสดิการ และนวัตกรรม ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด “ลดรายจ่าย สร้างรายได้ รีสตาร์ทชีวิตใหม่”
อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม