สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เผยแนวโน้มภาคอุตสาหกรรมในปี 2569 อุตสาหกรรมดาวเด่น ยังคงเป็นกลุ่มที่ได้รับแรงหนุนจากโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ของโลก สำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องเร่งปรับตัว ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE)

นายศุภกิจ บุญศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า แนวโน้มภาคอุตสาหกรรมในปี 2569 สศอ. ประเมินว่า อุตสาหกรรมดาวเด่น ยังคงเป็นกลุ่มที่ได้รับแรงหนุนจากโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ของโลก ได้แก่ 1. อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ที่เติบโตตามตลาดปัญญาประดิษฐ์ (AI), 2. อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วน (xEV) ที่ขยายตัวตามความต้องการตลาด มาตรการ EV3.0 และ EV3.5 ประกอบกับเงื่อนไขการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ (Local Content), 3. อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง (HDD) ซึ่งประเทศไทยเป็นฐานการผลิต HDD ความจุสูงเพื่อรองรับ Data Center, 4. กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร และ 5. อาหารสัตว์สำเร็จรูป ที่มีความพร้อมด้านวัตถุดิบและมาตรฐานการผลิต สามารถตอบสนองความต้องการบริโภคและตลาดสัตว์เลี้ยงที่ขยายตัวต่อเนื่อง

นายศุภกิจ บุญศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.)
นายศุภกิจ บุญศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.)

...

สำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องเร่งปรับตัว ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) โรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม เหล็กและเหล็กกล้าขั้นมูลฐาน สิ่งทอ และเฟอร์นิเจอร์และส่วนประกอบ เนื่องจากกำลังเผชิญทั้งแรงกดดันจากการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า ภาระหนี้ครัวเรือน การทะลักของสินค้านำเข้า ต้นทุนการผลิตที่สูง และมาตรการด้านภาษีและสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ ทำให้จำเป็นต้องปรับตัวเชิงโครงสร้าง เพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว

“สศอ. คาดว่าปี 2569 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) และอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ภาคอุตสาหกรรม จะกลับมาขยายตัว 1.0-2.0%”

สำหรับเอ็มพีไอ เดือนพ.ย.ที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 90.54 หดตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 4.24% อัตราการใช้กำลังการผลิตภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ 55.49 เนื่องจากการผลิตอุตสาหกรรมปิโตรเลียม ลดลงจากการหยุดผลิตชั่วคราว เพื่อซ่อมบำรุงโรงกลั่นครั้งใหญ่ เงินบาทแข็งค่า ส่งผลให้ราคาสินค้าส่งออกของประเทศไทยมีราคาเพิ่มสูงขึ้น และกระทบความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของไทย ประกอบกับสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ส่งผลให้ภาคการผลิตในพื้นที่ต้องหยุดผลิตชั่วคราว และสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชากระทบการค้าชายแดน โดยอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ น้ำมันปิโตรเลียม และสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น

ขณะที่การท่องเที่ยวจากต่างประเทศลดลงต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น เนื้อไก่แช่แข็ง อาหารสำเร็จรูป รองเท้า เบียร์ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เป็นต้น

ทั้งนี้ ปัจจัยที่สนับสนุนภาคอุตสาหกรรมในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ได้แก่ การผลิตรถยนต์ขยายตัวต่อเนื่อง เป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากผู้ประกอบการต้องผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อชดเชยการนำเข้าในปีที่ผ่านมา การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่อง เป็นเดือนที่ 17 และมาตรการสำคัญ ๆ ของรัฐบาล เช่น โครงการคนละครึ่งพลัสและเที่ยวดีมีคืน เป็นต้น ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมในภาพรวมของไทย เดือนธ.ค.2568 ยังต้องเฝ้าระวังปัจจัยในประเทศที่อยู่ในวัฏจักรขาลง และมีภาวะต้องเฝ้าระวัง โดยปัจจัยด้านการลงทุนภาคเอกชน ยังคงหดตัวสูงต่อเนื่อง การบริโภคในประเทศได้รับผลดีจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม