บอร์ด รฟท. รับทราบผลเจรจาต่อสัญญาเช่าพื้นที่เซ็นทรัลลาดพร้าว หลังกลุ่มเซ็นทรัลเสนอแผนลงทุนปรับปรุงอาคาร ด้านบอร์ดยังไม่อนุมัติ มอบอนุกรรมการทรัพย์สินพิจารณารายละเอียด ตรวจผลตอบแทน-กฎหมายรอบคอบ และพิจารณาให้รอบด้านก่อนตัดสินใจ
นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2568 ได้รับทราบรายงานผลการเจรจาเบื้องต้นระหว่างบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ รฟท. ที่รับผิดชอบการบริหารทรัพย์สิน กับบริษัท เซ็นทรัลอินเตอร์พัฒนา จำกัด เกี่ยวกับแนวทางการใช้ประโยชน์พื้นที่ศูนย์การค้าบริเวณสามเหลี่ยมย่านพหลโยธิน หรือโครงการเซ็นทรัลลาดพร้าว
นายอนันต์ กล่าวว่า การนำเสนอในที่ประชุมครั้งนี้เป็นเพียงรายงานผลการเจรจาในเบื้องต้น ยังไม่มีการพิจารณาอนุมัติแผนใด ๆ โดย SRTA ได้รายงานแนวคิดการลงทุนและการปรับปรุงทรัพย์สินเดิมของโครงการ ซึ่งเป็นอาคารที่เปิดใช้งานมาแล้วมากกว่า 30 ปี ทั้งนี้ กลุ่มเซ็นทรัลได้เสนอแผนลงทุนเพิ่มเติมวงเงินประมาณ 4,500 ล้านบาท เพื่อดำเนินการปรับปรุงและยกระดับทรัพย์สินเดิม ไม่ว่าจะเป็นตัวอาคาร โครงสร้างเพื่อรองรับแผ่นดินไหว รวมถึงระบบงานภายในหรือระบบ E&M เช่น บันไดเลื่อน ระบบปรับอากาศ และงานระบบสำคัญอื่น ๆ ที่ใช้งานมาเป็นเวลานาน
...
“แผนดังกล่าวกำหนดให้เริ่มดำเนินการปรับปรุงหลังจากสัญญาเช่าเดิมสิ้นสุดลงในปี 2571 โดยเป็นการทำสัญญาเช่าฉบับใหม่ระยะเวลา 30 ปี ซึ่งถือเป็นการลงทุนในระยะยาวเพื่อเพิ่มมูลค่าและความปลอดภัยของทรัพย์สินในอนาคต โดย บอร์ด รฟท. ยังไม่ได้มีมติอนุมัติแผนการลงทุนหรือการต่อสัญญาเช่าดังกล่าวแต่อย่างใด โดยได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการด้านทรัพย์สินพิจารณารายละเอียดในเชิงลึกเพิ่มเติม ทั้งในด้านผลตอบแทนทางการเงิน แผนการลงทุน ความคุ้มค่าในระยะยาว รวมถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความรอบคอบและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อการรถไฟแห่งประเทศไทย ก่อนจะนำเรื่องกลับมาเสนอให้บอร์ด รฟท. พิจารณาอนุมัติอย่างเป็นทางการอีกครั้ง” นายอนันต์ กล่าว
นายอนันต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลักการสำคัญในการประเมินโครงการใหม่ คือการพิจารณาภาพรวมตลอดอายุสัญญา ทั้งมูลค่าการลงทุนและผลตอบแทนที่ รฟท. จะได้รับ โดยมูลค่าปัจจุบันสุทธิของโครงการจะต้องไม่ต่ำกว่ามูลค่าเดิม ขณะเดียวกัน การลงทุนเพิ่มเติมถือว่ามีความจำเป็น เนื่องจากอาคารและโครงสร้างมีอายุการใช้งานยาวนาน และต้องยกระดับให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยสมัยใหม่ โดยเฉพาะการเสริมความแข็งแรงของอาคารและการรองรับเหตุแผ่นดินไหว
สำหรับโครงการพัฒนาพื้นที่เซ็นทรัลลาดพร้าวนั้น ถือเป็นหนึ่งใน 10 แปลงที่ดินขนาดใหญ่ของ รฟท. ที่มีมูลค่าทรัพย์สินมากกว่า 500 ล้านบาท ซึ่ง SRTA ได้รับมอบหมายจากบอร์ด รฟท. ให้นำมาบริหารจัดการเชิงพาณิชย์เพื่อสร้างรายได้ให้กับองค์กร โดยโครงการเซ็นทรัลลาดพร้าวไม่ใช่โครงการเดียวที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ แต่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาทรัพย์สินหลายแปลงควบคู่กันไป ซึ่งล้วนอยู่ในวาระเร่งด่วนที่ต้องรายงานความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ SRTA ได้จัดทำแผนเสนอให้ รฟท. พิจารณา เพื่อผลักดันให้ทรัพย์สินทั้ง 10 แปลงสามารถสร้างรายได้กลับคืนสู่การรถไฟแห่งประเทศไทยภายในปี 2569 แม้แต่ละแปลงจะมีความคืบหน้าที่แตกต่างกันไปตามลักษณะพื้นที่และศักยภาพของโครงการก็ตาม
นายอนันต์ กล่าวถึงหลักเกณฑ์การพิจารณาโครงการว่า โครงการที่มีมูลค่าทรัพย์สินหรือวงเงินลงทุนเกิน 500 ล้านบาท จะต้องเสนอให้คณะกรรมการ รฟท. พิจารณาอนุมัติ ขณะที่โครงการที่มีมูลค่าน้อยกว่า 500 ล้านบาท สามารถให้ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยพิจารณาดำเนินการได้โดยตรง เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการทรัพย์สิน พร้อมยืนยันว่า การพัฒนาและบริหารทรัพย์สินผ่าน SRTA จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่ อำนวยความสะดวกแก่ผู้เช่าและประชาชน และสร้างรายได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนให้แก่การรถไฟแห่งประเทศไทยในระยะยาว.
อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม