นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีลงนามความร่วมมือ ว่าด้วยการควบคุมการเผาอ้อยและพืชไร่ เพื่อป้องกันปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ว่ากระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อสนองนโยบายสีเขียวของรัฐบาล ที่เกี่ยวข้องกับมลภาวะและสุขภาพของพี่น้องประชาชน ซึ่งเห็นถึงความตั้งใจที่ดีตามสโลแกน “อากาศดีตลอดปีใหม่”

นายอนุทิน กล่าวว่า ในระยะต่อไป ประเทศไทย ต้องคิดถึงเรื่องพลัสด้วย ทั้งที่เป็นนโยบายที่เคยทำมาแล้ว ทำด้วยความสำเร็จมาแล้ว ทำด้วยความตั้งใจมาแล้ว แต่ในปี 2569 ประเทศไทยก็จะต้องพลัส ด้วยการเพิ่มศักยภาพต่างๆ ที่เรามีอยู่ในทุกๆ กระทรวง และอาจต้องมีการเพิ่มจำนวนสมาชิกในสัญญาความร่วมมือดังกล่าว โดยการเพิ่มหน่วยงานใหม่ๆ เข้ามาร่วมโครงการ เช่น เป็นกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

“ผมขอขอบคุณผู้บริหารทั้ง 4 กระทรวงในครั้งนี้ที่มีความร่วมมือกัน และต้องขอขอบคุณประชาชนทุกภาคส่วน ทั้งชาวไร่อ้อย ที่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาล นำพาสภาวะแวดล้อมและอากาศที่ดี ให้กับคนไทยและประเทศไทย”

นายอนุทิน กล่าวยอมรับว่าในช่วงปีที่ผ่านมารัฐบาลได้เข้มงวดในการลดการเผาพืชไร่ เพื่อลดมลภาวะในจังหวัดต่างๆ เพราะเป็นโจทย์ว่าจะทำอย่างไร ที่ทำให้บ้านเราไม่ไปเพิ่มมลภาวะจนเกิดปัญหาฝุ่น PM 2.5 และกระทบไปถึงพี่น้องประชาชน ทำให้เกิดปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจ ซึ่งจากนโยบายดังกล่าวพบว่า เกษตรกรทางภาคเหนือทำได้ผลสำเร็จอย่างเต็มที่ ใช้มาตรการทางกฎหมายควบคุมไม่ให้เกิดการเผาซากพืชไร่ต่างๆ ได้ผลเพิ่มมากขึ้น แม้จะควบคุมได้ไม่หมด แต่จากการเปรียบเทียบการบันทึกข้อมูลนั้นลดลงได้อย่างชัดเจน

...

นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากมาตรการเพิ่มปริมาณอ้อยตัดสด เข้าส่งโรงงานน้ำตาลเพื่อลดการเผาฤดูการผลิตปี 2568/2569 ข้อมูลสถานการณ์ผลิตอ้อย ตั้งแต่วันที่ 1-24 ธ.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีปริมาณอ้อยสดเข้าหีบสูงถึง 98.21% จากปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งหมด ซึ่งกระทรวงฯตั้งเป้าตลอดฤดูการผลิตนี้ให้มีปริมาณอ้อยสดเข้าหีบ 90% ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทั้งเกษตรกร โรงงานน้ำตาล และหน่วยงานทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง

“ยืนยันว่าใน 24 วันที่ผ่านมา สามารถควบคุมการเผาอ้อยเป็นศูนย์ได้ และยังได้ขอความร่วมมือไปยังทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้ตัดอ้อยสด เพื่อทำให้การเผาอ้อยเป็นศูนย์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ไปจนถึงวันเด็กแห่งชาติ เพื่อคืนอากาศบริสุทธิ์ให้กับคนไทยทุกคน ซึ่งความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาการเผาอ้อยในฤดูการผลิตปี 2568/69 ต่อยอดไปถึงฤดูการผลิตปี 2569/70 เพื่อป้องกันปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5”

ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) จะให้ความสำคัญกับการลดการเผาอ้อย ทั้งก่อนและหลังการเก็บเกี่ยว ควบคู่กับการลดผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 ผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญ เทคโนโลยี และเครือข่ายการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน เพื่อให้เกิดผลลัพธ์และต่อยอดในระยะยาว ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เป็นก้าวต่อไปของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ มีแนวคิดผลักดันมาตรการจ่ายเงินช่วยเหลือตามประสิทธิภาพ และการใช้เทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียม พร้อมประยุกต์ใช้ข้อมูลด้านอุตุนิยมวิทยา จากแรงกดอากาศและทิศทางลม เพื่อควบคุมการเผาอ้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพบนพื้นฐานของการควบคุมการเผาในเชิงพื้นที่ และการประยุกต์ใช้ข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และเทคโนโลยีดิจิทัล

อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม