กทพ.ทุ่ม 5 หมื่นล้าน เร่งสะพานเชื่อมเกาะสมุย หนุนทางเลือกเดินทางท่องเที่ยวภาคใต้ สั่งอัปเกรดรันเวย์สนามบิน พร้อมจับมือพันธมิตรเร่งเครื่องระบบสาธารณูปโภคครบวงจร คาดเปิดให้บริการปี 71

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและคมนาคม เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เดินหน้าโครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมเกาะสมุย มูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นความร่วมมือครั้งใหญ่ของ 4 หน่วยงานรัฐ ในการรองรับระบบสาธารณูปโภคของหน่วยงานสาธารณูปโภค ระหว่าง กทพ. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) เพื่อยกระดับการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกและเสริมความมั่นคงด้านพื้นฐานให้กับประชาชนในพื้นที่

สำหรับโครงการสะพานเชื่อมเกาะสมุยนี้มีระยะทางรวมประมาณ 37 กิโลเมตร โดยจะเป็นเส้นทางยกระดับข้ามทะเลที่เชื่อมต่อระหว่างเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ผ่านอำเภอดอนสัก ไปสิ้นสุดที่อำเภอขนอม จ.นครศรีธรรมราช ความโดดเด่นของโครงการนี้ไม่ใช่เพียงแค่การเป็นเส้นทางคมนาคมที่ทำให้สามารถเดินทางเข้า-ออกเกาะได้ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อแก้ปัญหาข้อจำกัดของเรือเฟอร์รี่ในปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังถูกออกแบบให้เป็นสะพานแห่งความมั่นคง โดยจะมีการวางระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานสำคัญ ทั้งท่อส่งน้ำประปา สายไฟฟ้าแรงสูง และโครงข่ายโทรคมนาคมไปพร้อมกับตัวสะพาน เพื่อป้องกันความเสียหายจากภัยธรรมชาติหรืออุบัติเหตุทางทะเลที่มักเกิดขึ้นกับระบบเคเบิลใต้น้ำในอดีต

ทั้งนี้ ในเชิงเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว โครงการนี้จะกลายเป็นตัวเร่งสำคัญในการกระจายรายได้ ไม่เพียงแต่บนเกาะสมุย เกาะพะงัน หรือเกาะเต่าเท่านั้น แต่จะส่งผลบวกอย่างมากต่อพื้นที่บนฝั่งอย่างอำเภอขนอมและอำเภอสิชล ซึ่งคาดว่าจะมีการหลั่งไหลของเม็ดเงินลงทุนในธุรกิจโรงแรมและบริการเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเชื่อมโยงระหว่างแผ่นดินใหญ่และหมู่เกาะได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยผลจากการทำประชาพิจารณ์พบว่าประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ให้การสนับสนุนโครงการนี้สูงถึงกว่า 90% โดยคาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปี2570 เนื่องจากต้องรอรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ให้แล้วเสร็จ คาดเปิดประกวดราคาปี2571 พร้อมเปิดให้บริการปี 2576

...

นายพิพัฒน์ กล่าวว่าได้เน้นย้ำถึงข้อเสนอแนะเชิงรุก 3 ประเด็นหลัก คือ หนึ่ง การวางแผนจัดการจราจรบนเกาะสมุยล่วงหน้าเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแออัดเหมือนกรณีของเกาะภูเก็ต สอง การกำหนดมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดในช่วงมรสุมที่อาจต้องมีการปิดการจราจรหากสภาพอากาศรุนแรง และสาม การเร่งพัฒนาสนามบินนครศรีธรรมราชและสนามบินสุราษฎร์ธานีให้มีการขยายรันเวย์ยาวขึ้นเพื่อรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่จากต่างประเทศลงจอดได้ ซึ่งจะช่วยลดความแออัดของสนามบินสมุยและสร้างโครงข่ายการเดินทางที่สมบูรณ์แบบ

“กระบวนการศึกษาจะให้ความสำคัญกับการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างรอบด้าน ควบคู่กับการพิจารณาการเชื่อมโยงระบบคมนาคมรูปแบบอื่น โดยเฉพาะสนามบินสุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช ซึ่งมีศักยภาพรองรับการเดินทางและการท่องเที่ยวในอนาคต รวมถึงการวางแผนรองรับปริมาณนักท่องเที่ยวและการจัดการความแออัดบนเกาะสมุยอย่างเป็นระบบ ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะช่วยกระจายรายได้และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับพื้นที่โดยรอบ อาทิ อำเภอขนอมและอำเภอสิชล โดยรัฐบาลจะเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้วยความรับผิดชอบ ไม่เร่งรัด สร้างสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนในระยะยาว” นายพิพัฒน์ กล่าว


อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม