นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยถึงการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาว่า กรม ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ และภาคเอกชนเจ้าของสิทธิ ปูพรมตรวจจับสินค้าละเมิด ในท้องตลาด ห้างสรรพสินค้า และย่านการค้ายอดนิยมทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ช่วง 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.) ปี 68 จับกุมดำเนินคดีได้ 1,132 คดี ยึดของกลาง 3,344,841 ชิ้น ความเสียหายกว่า 1,140 ล้านบาท แบ่งเป็น การบูรณาการร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จับกุมได้ 789 คดี ของกลาง 1,820,574 ชิ้น, กรมสอบสวนคดีพิเศษ 7 คดี ของกลาง 952,592 ชิ้น และกรมศุลกากร 336 คดี ของกลาง 571,675 ชิ้น

“เมื่อเปรียบเทียบสถิติช่วงเวลาเดียวกันของปี 67 ที่จับกุมได้ 1,350 คดี ยึดของกลาง 2,756,369 ชิ้น ความเสียหาย 700 ล้านบาท จะเห็นได้ว่าปี 68 จับกุมดำเนินคดีลดลงกว่า 16.15% แต่มีของกลางเพิ่มมากขึ้น 21.35% และความเสียหายเพิ่มสูงกว่า 63.89% เพราะมุ่งเน้นสกัดกั้นสินค้าละเมิดตั้งแต่แหล่งต้นน้ำ ทั้งที่เป็นแหล่งผลิต แหล่งเก็บ แหล่งกระจายสินค้า โดยของกลางที่คดีถึงที่สุดแล้วทั้งหมด จะถูกทำลายอย่างสิ้นซาก เพื่อปิดตายวงจรสินค้าละเมิด ไม่ให้หมุนเวียนกลับสู่ท้องตลาดได้อีก”

นอกจากนี้ ชุดปฏิบัติการด้านการปราบปรามของกรม ยังร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ลงพื้นที่ปูพรมปราบสินค้าละเมิดทรัพย์ต่อเนื่อง แบ่งเป็น 3 ชุด ได้แก่ ชุดจรยุทธ์ เฝ้าระวังศูนย์การค้าและย่านการค้าสำคัญในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เช่น ศูนย์การค้าเอ็มบีเคเซ็นเตอร์, แพลตินัม, ประตูน้ำ, สำเพ็ง, สีลม, พร้อมพงศ์, สุขุมวิท อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน รวมทั้งกรณีได้รับแจ้งจาก บก.ปอศ. จะเข้าปฏิบัติการทันทีเมื่อมีหมายค้น

...

2. ชุดระดม ตรวจตราพื้นที่เสี่ยงในต่างจังหวัดทั่วประเทศ ล่าสุดเมื่อวันที่ 10-14 ธ.ค.68 ลงพื้นที่ภาคอีสาน 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา หนองคาย อุดรธานี และขอนแก่น จับกุมผู้กระทำความผิด 5 ราย ตรวจยึดของกลาง 4,505 ชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 4.6 ล้านบาท เป็นสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า เช่น อะไหล่รถจักรยานยนต์ เสื้อผ้า เคสโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

3. ชุดตรวจสอบและประเมินผล ตรวจสกัดการจำหน่ายสินค้าละเมิด ในพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ (พื้นที่สีแดง) ตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ 8 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย) สงขลา กระบี่ และประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งสามารถขยายผลนำไปสู่การจับกุมและสกัดกั้นสินค้าละเมิดจำนวนมาก โดยสินค้าละเมิดส่วนใหญ่เป็นเครื่องสำอาง อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนยานยนต์ และสินค้าแบรนด์เนมปลอม จำพวกเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า นาฬิกา แว่นตา และเครื่องประดับ ซึ่งไม่ได้มาตรฐานและอาจก่ออันตรายต่อประชาชน

นางอรมน กล่าวอีกว่า ด้านการขายสินค้าละเมิดผ่านออนไลน์ ที่ผ่านมา ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับ 5 แพลตฟอร์มรายใหญ่ ได้แก่ Lazada, Shopee, TikTok Shop, NocNoc และ Nex Gen Commerce ใช้มาตรการ Notice and Takedown ถ้าพบร้านค้าบนแพลตฟอร์มขายสินค้าละเมิด จะแจ้งเตือนไปยังแพลตฟอร์ม และให้ปลดออกจากแพลตฟอร์มทันที ซึ่งระงับการขายสินค้าละเมิดบน 5 แพลตฟอร์มได้ถึง 2,867 รายการ และเตรียมจะลงนาม MOU กับ บริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด ในสัปดาห์นี้

สำหรับบทลงโทษของการจำหน่ายสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า จำคุกสูงสุด 4 ปี ปรับสูงสุด 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนการจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ จำคุกสูงสุด 4 ปี หรือปรับสูงสุด 800,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม