ครม.เศรษฐกิจถกหาทางช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้ใช้คนละครึ่งพลัส กว่า 3.39 ล้านคน ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมภาคใต้ สะท้อนความเปราะบางทางเศรษฐกิจของครัวเรือนในพื้นที่ภัยพิบัติ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ที่มีนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธานแทนนายกรัฐมนตรี ที่ประชุมได้รับทราบรายงานความก้าวหน้าการขับเคลื่อนมาตรการ Quick Big Win ของรัฐบาล

โดยพบว่า กรณีน้ำท่วมภาคใต้ในช่วงตั้งแต่วันที่ 17 - 23 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ได้รับสิทธิในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโครงการคนละครึ่งพลัส รวมกว่า 3.39 ล้านคน คิดเป็น 44.1% ของประชากรทั้งหมดในพื้นที่ได้รับผลกระทบ

ดังนั้นที่ประชุมได้รับทราบว่า เกือบครึ่งหนึ่งของประชากรที่ประสบอุทกภัย อยู่ในกลุ่มที่พึ่งพามาตรการภาครัฐอยู่แล้ว โดยเฉพาะจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง และนราธิวาส ซึ่งมีสัดส่วนผู้รับสิทธิรวมสูงกว่า 47 – 52% ของประชากร สะท้อนถึงความเปราะบางด้านเศรษฐกิจของครัวเรือนในพื้นที่ภัยพิบัติ ซึ่งกรณีดังกล่าวถือเป็นข้อมูลสำคัญของรัฐบาล ซึ่งจากนี้จะมีมาตรการออกมาให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู และเร่งเยียวยาต่อไป

ทั้งนี้ที่ประชุมครม.เศรษฐกิจ ได้รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินโครงการคนละครึ่งพลัส ซึ่งดำเนินการไปแล้วในเฟสแรก และโครงการเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

...

ส่วนแรก คือ โครงการคนละครึ่งพลัส จากการติดตามผลการดำเนินโครงการ โดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Data Analytics) พบว่า ข้อมูล ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2568 เวลา 23.00 น. พบว่า มีร้านค้าที่ผ่านการตรวจสอบข้อมูลแล้ว 991,185 ราย และมีประชาชนที่ลงทะเบียนใช้สิทธิครบจำนวน 3,069,459 ราย ยอดการใช้จ่ายภายใต้โครงการรวมทั้งสิ้น 66,160.8 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินที่รัฐร่วมจ่าย 32,584.8 ล้านบาท และเงินที่ประชาชนจ่าย 33,576 ล้านบาท

ทั้งนี้กระทรวงการคลัง ประเมินผลว่าการดำเนินโครงการคนละครึ่งพลัสในช่วงที่ผ่านมาสามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ 0.17% ต่อปี สะท้อนการหมุนเวียนเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจจากทั้งภาครัฐและประชาชนอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่การติดตามผลการดำเนินโครงการเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกพบว่า การวิเคราะห์ข้อมูลการใช้จ่ายจริงเฉพาะร้านค้าธงฟ้า ในช่วงเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน 2568 ทำให้เกิดวงเงินรวมทั้งประเทศ 23,289 ล้านบาท ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ 0.06% ต่อปี โดยเมื่อรวมทั้ง 2 โครงการเข้าด้วยกัน ล่าสุดมีผลต่อการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจแล้ว 0.23% ต่อปี

อย่างไรก็ตามในส่วนของการดำเนินโครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 นั้น กระทรวงการคลัง แจ้งว่า โครงการดังกล่าวตามแผนเดิมกำหนดไว้ว่า จะเสนอรายละเอียดเข้าสู่การประชุมครม.เศรษฐกิจ ในวันที่ 15 ธันวาคม นี้ เพื่อพิจารณา ขณะที่นายเอกนิติ ระบุถึงความคืบหน้าว่า ทั้งสองโครงการยังอยู่ระหว่างทีมงานพิจารณารายละเอียดคาดว่าเร็ว ๆ นี้จะได้ข้อสรุป


อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม