กรมการค้าภายใน เดินหน้าปฏิบัติการช่วยน้ำท่วมภาคใต้ต่อเนื่อง เผย สินค้าอุปโภคบริโภคไม่ขาดแคลน แต่เอาออกจากศูนย์กระจายไม่ได้ ยะลา เริ่มขาดแคลนไข่ไก่ ประสานสมาคมผู้เลี้ยง ส่งเข้าพื้นที่ พร้อมชี้ ปาล์มน้ำมัน ไม่เสียหาย และไม่กระทบราคาปาล์มขวดแน่นอน เตรียมช่วยเหลือร้านธงฟ้าใน 10 จังหวัดใต้กว่า 2.4 หมื่นร้าน ที่ได้รับผลกระทบ เดินหน้าจัดงานธงฟ้าราคาประหยัด ซับน้ำตาชาวใต้
นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากการสอบถามจากห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ในพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้ ทั้ง 9 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พบว่า ขณะนี้สินค้า มีเพียงพอยังไม่ขาดแคลน แต่สินค้าที่อยู่ในศูนย์กระจายสินค้าในบางจุดที่น้ำท่วม พนักงานยังไม่สามารถนำออกมาได้ ซึ่งใช้วิธีนำสินค้าจากศูนย์กระจายสินค้าอื่นๆ ที่ไม่อยู่ในจุดที่น้ำท่วมเข้ามาเสริมในพื้นที่แทน ส่วนผลกระทบในพื้นที่เกษตรนั้น สินค้าไข่ไก่ไม่มีปัญหา สามารถนำจากที่อื่นมาทดแทนได้ ขณะที่พื้นที่ที่ปลูกปาล์มน้ำมัน ยังไม่มีผลกระทบ เพราะฤดูกาลเก็บเกี่ยวเพิ่งเริ่ม ผลผลิตจึงยังออกไม่มาก อีกทั้งสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบในประเทศขณะนี้ ยังมีมากถึง 430,000 ตัน ซึ่งเพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ
...
“กรมร่วมกับสภาเกษตรกร สำรวจสินค้าเกษตรในพื้นที่น้ำท่วม ได้รับข้อมูลว่า ถ้าน้ำไม่ท่วมขังนาน จะไม่มีผลกระทบ แต่ที่มีผลกระทบบ้าง คือ ขณะนี้เข้าไปเก็บเกี่ยวผลผลิตไม่ได้ เช่น ปาล์มน้ำมัน แต่หลายพื้นที่ก็เริ่มเข้าได้แล้ว จากการประเมิน ปาล์มน้ำมันไม่มีผลกระทบ เพราะช่วงปลายปีปาล์มน้ำมันออกน้อย และมั่นใจว่า จะไม่มีผลกระทบต่อราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวด เพราะขณะนี้ มีสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบในประเทศถึงกว่า 430,000 ตัน เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ”
นอกจากนี้ กำลังรวบรวมความเสียหายของร้านค้าธงฟ้า และร้านอาหารธงฟ้า ที่อยู่ในความส่งเสริมของกรมว่าได้รับความเสียหายเพียงใด โดยในพื้นที่ 10 จังหวัดที่น้ำท่วม มีประมาณ 24,355 แห่ง เฉพาะสงขลา 3,502 แห่ง เพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป เช่น การเชื่อมโยงสินค้า เพื่อนำไปจำหน่าย การประสานซื้อสินค้าทำความสะอาด สินค้าซ่อมแซมในราคาถูก เป็นต้น
นายวิทยากร กล่าวต่อถึงการประชุมร่วมกับผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าทำความสะอาดบ้านเรือน และวัสดุก่อสร้าง เพื่อขอความร่วมมือจัดสินค้ามาจัดโครงการธงฟ้าราคาประหยัด เพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้ 9 จังหวัด ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป โดยจะเน้นพื้นที่ที่น้ำลดแล้วก่อน จุดใดท่วมมาก ก็จัดจุดนั้น เพราะความต้องการมีมาก จังหวัดหนึ่ง อาจจัดหลายที่ตามความเหมาะสม และจะมีรถโมบายเคลื่อนที่วิ่งออกไปขายถึงบ้านประชาชนวันละ 3-4 คัน
สำหรับสินค้าที่จะนำมาจัดจำหน่ายในราคาถูกเป็นพิเศษ ได้แก่ อาหาร อาทิ ไข่ไก่ ข้าวสาร น้ำมันพืช น้ำตาลทราย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, สินค้าอุปโภคบริโภค อาทิ สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน น้ำยาสระผม, สินค้าทำความสะอาด อาทิ ไม้ถูพื้น น้ำยาทำความสะอาด น้ำยาฆ่าเชื้อโรค และสินค้าวัสดุก่อสร้าง
นอกจากนี้ กรมยังได้ร่วมกับภาคเอกชน จัดส่งสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพล็อตใหญ่ และถุงยังชีพ 2,000 ชุดจากการรับบริจาคจากภาคเอกชนไปให้กับประชาชนในพื้นที่ประสบภัย โดยวันที่ 1 ธ.ค.68 นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ จะเป็นผู้รับมอบ และส่งต่อไปให้ผู้ประสบภัย ขณะที่อีกบางส่วนจะมอบให้กับสภากาชาดไทย เพื่อนำไปส่งมอบให้กับผู้ประสบภัยต่อไป เพราะสิ่งของที่ได้รับบริจาคมา มีเป็นจำนวนมาก พร้อมกันนั้น ได้ส่งมอบสิ่งของจำเป็นจำนวนมากไปยังศูนย์พักพิงต่างๆ และได้ประสานสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ ส่งไข่ไก่ 7,000 แผง เข้าสู่จังหวัดยะลา ที่กำลังมีปัญหาขาดแคลน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน
...
อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม