นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้วิเคราะห์สถานการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่เดือนตุลาคม 2568 พบว่า มีธุรกิจจัดตั้งใหม่ 7,165 ราย ทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 21,778 ล้านบาท โดยมี 3 ประเภทธุรกิจที่ขยายตัวอย่างน่าสนใจเมื่อเปรียบเทียบกับตุลาคม 2567 ได้แก่ ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทและห้องชุด, ธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้า รวมถึงคนโดยสาร และ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป
ส่งผลให้การจัดตั้งใหม่ช่วง 10 เดือนของปี 2568 มีจำนวน 74,510 ราย เมื่อเทียบกับช่วง 10 เดือนของปี 2567 ที่มี 76,953 ราย ลดลง 2,443 ราย คิดเป็น 3.17% ขณะที่ทุนจดทะเบียนตั้งใหม่ 10 เดือน สะสมอยู่ที่ 235,992 ล้านบาท

...

ขณะที่การลงทุนของชาวต่างชาติในไทยในเดือนตุลาคม 2568 ได้มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย 99 ราย เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 23,621 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจากสิงคโปร์ จีน และญี่ปุ่น ตามลำดับ ส่งผลให้ 10 เดือนของปี 2568 (มกราคม-ตุลาคม) มีจำนวน 869 ราย เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 276,736 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยประเทศที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา, สิงคโปร์, จีน และฮ่องกง ตามลำดับ

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการป้องกันและสกัดปัญหานอมินีและบัญชีม้า ทางกรมฯ ได้ออก 5 มาตรการจดทะเบียนใหม่ ได้แก่

1. ขยายการตรวจสอบบุคคลกลุ่มเสี่ยง (HR-03) ที่เริ่มดำเนินการแล้ว ซึ่งได้มีหน่วยงานส่งรายชื่อให้กรมตรวจสอบแล้ว 9 หมื่นราย พบว่าเจอเข้าข่ายเสี่ยง 40 ราย

2. บูรณาการข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสถานะทางการเงิน โดยจะขอความร่วมมือจากกระทรวงการคลัง ส่งรายชื่อผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีอยู่แล้ว 13.4 ล้านคน เนื่องจากที่ผ่านมาพบมีการหลอกลวงนำชื่อบุคคลในกลุ่มนี้มายื่นจดตั้งบริษัท ดังนั้น จากนี้ผู้มีชื่อยื่นจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทต้องมาแสดงตัวพร้อมหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะฐานะการเงิน เป็นทางหนึ่งที่จะปิดกั้นมิจฉาชีพนำชื่อหรือหลอกให้ลงชื่อเพื่อมาจดตั้งบริษัทเถื่อน, ถือหุ้นแทน หรือ นอมินี

3. พัฒนาระบบตรวจจับพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยง มาตรการนี้จะเน้นการตรวจสอบรายละเอียดส่วนบุคคล ซึ่งที่ผ่านมา เจอชื่อบุคคลยื่นจดตั้งบริษัทหรือเป็นกรรมการในหลายบริษัท และยังมีที่ตั้งสำนักงานเดียวกัน จากนี้ผู้ที่มีชื่อจดตั้งบริษัทต้องแสดงตน พร้อมหลักฐานต่างๆ โดยเน้นตรวจสอบสถานที่เดียวกันแต่เป็นที่ตั้ง 5 บริษัท

4. ปรับปรุงระเบียบ/คำสั่ง ประเด็นนี้ที่ผ่านมา การยื่นจดตั้งบริษัทหรือดำเนินการเปลี่ยนแปลงใดๆ กว่า 85% เป็นการว่าจ้างบริษัทรับดำเนินการจดตั้งบริษัท เช่น คนทำบัญชี, สำนักงานบัญชี และทนายความ เป็นต้น จากนี้ ผู้รับจ้างและผู้รับรองลายมือชื่อ ต้องมาแสดงตนและลงลายมือชื่อต่อหน้าเจ้าหน้าที่พนักงาน เพื่อเป็นการแสดงตัวตน

5. ระงับสิทธิผู้ใช้งานระบบจดทะเบียนที่ฝ่าฝืนเงื่อนไขและข้อตกลง ซึ่งส่วนนี้มีผู้เกี่ยวข้องกว่า 8 หมื่นราย ถ้าหากพบว่ากลุ่มนี้กระทำผิด จะถูกดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและถูกถอดใบอนุญาตประกอบธุรกิจ ซึ่งทั้ง 5 แนวทางดังกล่าวจะใช้เป็นแนวทางปฏิบัติก่อนได้รับการอนุมัติจัดตั้งบริษัทใหม่ ซึ่งระยะเวลาการพิจารณาจะยังเหมือนเดิมเพียงเพิ่มการแสดงตัวตนและเอกสารประกอบให้ชัดเจนมากขึ้น

...

ทั้งนี้ 5 มาตรการที่จะดำเนินการ บางส่วนสามารถเริ่มได้เลย และบางเรื่องยังต้องเปิดรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานและประชาชนทั่วไปก่อน โดยขั้นตอนเปิดรับฟังความคิดเห็นจะดำเนินการภายใน 15 วัน จากนั้นออกประกาศของกรมฯ เพื่อบังคับใช้ต่อไป คาดว่าทั้ง 5 มาตรการจะใช้ครบทุกขั้นตอนก่อนปีใหม่ 2569 นี้ เชื่อว่าจะเป็นการลดปัญหานอมินีและบัญชีม้า


อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม