กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เตรียม 5 หลักสูตรออนไลน์ Upskill-Reskill ร้านค้า “คนละครึ่งพลัส” สมัครและอบรม 19 พ.ย.-19 ธ.ค.68 ย้ำร้านค้าต้องเข้าเรียนเอง และต้องสอบให้ได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด รับเลย 2 พันบาท จำกัดสิทธิ 4 แสนราย ใครมาก่อนได้ก่อน
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบโครงการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill) หรือ เรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส เพื่อกระตุ้นและจูงใจให้ร้านค้าพัฒนาธุรกิจของตนเองนั้น กรมได้เตรียม 5 หลักสูตรออนไลน์เพื่อเสริมทักษะที่จำเป็นให้ร้านค้าขนาดเล็ก และ SME ประกอบด้วย
1.การเริ่มต้นธุรกิจสำหรับ SME มือใหม่ จะเน้นการวางแผนและการบริหารจัดการธุรกิจเบื้องต้น
2.การตลาดด้าน e-Commerce สอนเทคนิคการขายสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์
3.การตลาดยุคดิจิทัล เพื่อเพิ่มยอดขายและการเข้าถึงลูกค้าด้วยเครื่องมือดิจิทัล
4. AI เปลี่ยนเกมธุรกิจ พลิก SME ไทยให้เติบโต เน้นการประยุกต์ใช้ AI เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ และ
5.เส้นทางสู่ความสำเร็จธุรกิจร้านอาหาร เจาะลึกกลยุทธ์เฉพาะสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่ม (รวมถึงการเข้าสู่ Food Delivery Platform)
...
ทั้งนี้ ร้านค้าในโครงการคนละครึ่งพลัส สมัครและเข้ารับการอบรมวันที่ 19 พ.ย.-19 ธ.ค.68 ได้ทาง https://dbdacademy.dbd.go.th/ ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ www.dbd.go.th >> DBD e-learning และต้องเข้าเรียนด้วยตนเองตลอดหลักสูตร โดยต้องทำแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) และหลังเรียน (Post-test) ด้วย มีเงื่อนไข ดังนี้
1. เลือกอบรมออนไลน์ 1 ใน 5 หลักสูตร กรณีมีคะแนนทดสอบก่อนเรียน 100% (ได้คะแนนเต็ม) ในวิชานั้น ถือว่าไม่เข้าข่ายต้องพัฒนาทักษะ และต้องเลือกเรียนวิชาอื่นต่อไป
2. คะแนนทดสอบที่พัฒนาทักษะได้สำเร็จ ได้แก่ คะแนนทดสอบหลังเรียน (ต้องไม่น้อยกว่า 70% และคะแนนทดสอบหลังเรียน ต้องมากกว่าคะแนนทดสอบก่อนเรียน)
“ร้านค้าที่ผ่านหลักเกณฑ์และเงื่อนไขไม่เกิน 400,000 ร้านค้าแรก จะได้รับสิทธิเงินสนับสนุนจากภาครัฐ 20% ของยอดขายที่เกิดจากโครงการคนละครึ่งพลัส เฉพาะในส่วนที่ภาครัฐร่วมจ่าย นับตั้งแต่วันที่ร้านค้าได้พัฒนาทักษะสำเร็จ จนถึงวันที่ 19 ธ.ค.68 สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาทต่อร้านค้า โดยกระทรวงการคลังจะประกาศผลผู้ได้รับสิทธิในวันที่ 23 ธ.ค.68 ผ่านข้อความบนแอปพลิเคชัน ‘ถุงเงิน’ และข้อความสั้น (SMS) โดยจะโอนเงินให้แก่ร้านค้าผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย ที่ผูกกับแอปพลิเคชัน ‘ถุงเงิน’ ในวันที่ 25 ธ.ค.68”
นายพูนพงษ์ กล่าวว่า โครงการนี้ถือเป็นการใช้จ่ายเงินงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่เพียงแต่กระตุ้นการบริโภคในระยะสั้น แต่ยังเป็นการติดอาวุธความรู้ให้ผู้ประกอบการอย่างยั่งยืน เพื่อให้ร้านค้าขนาดเล็กสามารถปรับตัวให้อยู่รอดและเติบโตในโลกการค้าที่เปลี่ยนไปสู่ยุคดิจิทัล
อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม