“นบข.” อนุมัติมาตรการ “ดันราคาข้าว” ดูดซับข้าวเปลือก 3 ล้านตัน พร้อมเดินหน้าปรับโครงสร้างพื้นที่ปลูก 1 ล้านไร่ เผยข่าวดีส่งออกข้าวปีนี้ได้ 8-9 ล้านตัน หลังจีนสั่งซื้อ 5 แสนตัน และสิงคโปร์อีก 1 แสนตัน แถมช่วยราคาข้าวขยับขึ้นด้วย
นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธานวันนี้ (18 พ.ย.) ว่าที่ประชุมได้อนุมัติมาตรการสำคัญเพื่อแก้ปัญหาสถานการณ์ราคาข้าวตกต่ำทั้งระบบ โดยเฉพาะการจัดการอุปทานส่วนเกิน ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบรายงานว่าปริมาณข้าวทั่วโลกอุปทานส่วนเกินกว่า 125 ล้านตัน ขณะที่ไทยมีอุปทานข้าวสารส่วนเกินราว 3.8 ล้านตัน หรือเทียบเท่าข้าวเปลือก 5.8 ล้านตัน
ทั้งนี้ มาตรการเร่งด่วนซึ่งที่ประชุม นบข. จะเร่งทำก่อนคือชะลอผลผลิตออกสู่ตลาด ผ่านเงินช่วยเหลือเกษตรกรที่มียุ้งฉาง 1,500 บาทต่อตัน และกลุ่มที่กลไกชะลอผลผลิตข้าวออกสู่ตลาดผ่านยุ้งฉางของสถาบันเกษตรกร ที่ 500 บาทต่อตัน และให้กับสถาบันเกษตร 1,000 บาทต่อตัน
...
สำหรับเกษตรกรที่ไม่มีที่เก็บ นบข. จัดตั้ง “ตลาดนัดข้าวเปลือก” 300 จุด ในกว่า 40 จังหวัด เพื่อช่วยรับซื้อและดันราคาให้สูงกว่าตลาด 100-300 บาท ขณะเดียวกัน โครงการสินเชื่อชะลอขายที่อนุมัติก่อนหน้า ได้กำหนดวงเงินในการช่วยเหลือแบ่งเป็นงบประมาณจ่ายขาด 9,000 ล้านบาท และวงเงินสินเชื่อ 35,000 ล้านบาท เพื่อชะลอผลผลิตข้าวที่ออกใหม่เข้าสู่ระบบต่อไป
นอกจากนั้น ที่ประชุม นบข. ยังเห็นชอบมาตรการตั้งเป้าดูดซับข้าวเปลือก 3 ล้านตัน คิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของปริมาณส่วนเกิน ข้าวที่ดูดซับจะนำไปแปรรูปเป็นข้าวถุง เพื่อกระจายไปยังหน่วยงานรัฐต่าง ๆ เช่น กรมราชทัณฑ์ และหน่วยงานด้านความมั่นคง ทำหน้าที่เป็น “แก้มลิง” ช่วยระบายข้าวในตลาด
นายวิทยากรกล่าวว่า ในส่วนของสถานการณ์ราคาข้าวถือว่ามีสัญญาณดีขึ้นจากคำสั่งซื้อต่างประเทศ โดยจีนเพิ่มยอดนำเข้า 500,000 ตัน และสิงคโปร์อีก 100,000 ตัน ดันราคาข้าวหอมมะลิปรับขึ้นเฉลี่ย 500 บาทต่อตัน แตะระดับกว่า 15,000 บาท ส่วนข้าวขาวเพิ่มขึ้นราว 100 บาท อยู่ที่ 6,500-6,550 บาท สมาคมผู้ส่งออกข้าวประเมินว่า ปีนี้อาจส่งออกได้ 8-9 ล้านตัน สูงกว่าเป้าหมายเดิม 7.5 ล้านตัน
นบข. เห็นชอบแผนปรับโครงสร้างการผลิตข้าวในประเทศ โดยยืนยันว่าในปีการผลิตต่อไปจะไม่ให้เงินสนับสนุนและเงินช่วยเหลือข้าวนาปรัง และจะมุ่งให้เกษตรกรปรับพื้นที่ปลูกไปสู่พืชอื่นที่ให้รายได้สูงกว่า ตั้งเป้าพื้นที่เปลี่ยนเป็นพืชทางเลือกจำนวน 1 ล้านไร่ ซึ่งได้รับการอนุมัติกรอบแล้ว ส่วนรายละเอียดชนิดพืชและเงื่อนไขจะให้กรมการค้าภายในร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนด ทั้งพืชระยะสั้นที่มีตลาดรองรับชัดเจน และพืชยืนต้นสำหรับการสร้างรายได้ในระยะยาว
“แผนดังกล่าวยังมุ่งยกระดับข้าวไทยให้เข้าสู่ตลาดพรีเมียม โดยคัดเลือกกลุ่มเกษตรกร 200 กลุ่มเป็นโมเดลกำลังผลิต พร้อมเชื่อมโยงตลาด เช่น โรงแรม 5 ดาว ร้านอาหารชั้นนำ รวมถึงตลาดส่งออก ขณะเดียวกันจะสนับสนุนอุปกรณ์และเครื่องมือจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสี ทำแพ็กเกจ หรือเครื่องตรวจคุณภาพ เพื่อให้กลุ่มเกษตรกรสามารถยกระดับเป็นผู้ผลิตข้าวคุณภาพสูงได้จริงในเชิงพาณิชย์”
อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม