"ไชยชนก" วัดใจ "ไรเดอร์-ไดรเวอร์" ยอมผ่อนคลายมาตรการสารพัด ลัดขั้นตอนลงทะเบียน เร่งกวาดต้อนรถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน เข้าระบบให้อยู่ใต้กฎหมาย ขีดเส้นไม่เกิน 28 ก.พ. 2569 คาดมีรถส่วนตัวที่ให้บริการสาธารณะผ่านแอปอยู่ที่ 2 แสนคัน จดทะเบียนถูกต้องกับกรมการขนส่งทางบกแบ่งเป็นรถมอเตอร์ไซค์ 2,082 คัน และรถยนต์ 6,189 คัน
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 นายไชยชนก ชิดชอบ รมว. ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยภายหลังการหารือความคืบหน้ามาตรการบรรเทาผลกระทบให้แก่กลุ่มผู้ขับขี่รถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน พร้อมด้วยนางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รมช.คมนาคม ว่า สืบเนื่องจากที่ตนได้รับหนังสือร้องเรียนจากผู้ขับขี่รถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน (ไรเดอร์ - ไดรเวอร์) เรื่องประกาศรถรับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (รย.17 สำหรับรถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ และ รย.18 สำหรับรถยนต์รับจ้างสาธารณะ) ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ขับขี่กว่า 200,000 รายก่อนหน้านี้นั้น ล่าสุดได้หารือร่วมกับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) และกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) รวมทั้งแอปพลิเคชันและสถาบันการเงิน ได้ข้อสรุป 5 มาตรการตามข้อเรียกร้องเพื่อลดภาระของผู้ขับขี่รถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน โดยมีกรอบระยะเวลาการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย. 2568 - 28 ก.พ. 2569 ได้แก่
...
1. เร่งระบบจดทะเบียนสำหรับผู้ขับขี่รถรับจ้างสาธารณะผ่านแอปฯของ ETDA เพื่ออำนวยความสะดวกให้กลุ่มผู้ขับขี่ลงทะเบียนแสดงตัวตนเข้าสู่ระบบภายใต้กฎหมายได้รวดเร็วยิ่ง โดยสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://driververify.mdes.go.th (ล็อกอินผ่าน Thai ID) ซึ่งจะได้รับใบรับแจ้งลงทะเบียน หรือ (QR Code) เพื่อใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหากถูกเรียกตรวจสอบได้ทันที โดยผู้ขับขี่จะต้องจดทะเบียนเป็นรถสาธารณะและทำใบขับขี่สาธารณะกับกรมการขนส่งทางบกให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 28 ก.พ. 2569
2. มาตรการแก้ปัญหารถที่อยู่ระหว่างการผ่อนชำระและเงื่อนไขเรื่องการประกันภัยรถยนต์ โดยกรมการขนส่งทางบกจะอนุญาตให้รถที่อยู่ระหว่างการผ่อนชำระกับสถาบันการเงิน สามารถใช้สำเนาใบคู่มือจดทะเบียน ยื่นจดทะเบียนแทนเล่มจริงได้ (จนถึง 28 ก.พ. 2569) รวมทั้งเจรจากับสถาบันการเงินเพื่อหามาตรการจูงใจให้ผู้ขับขี่เข้าระบบ โดยล่าสุดทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) ประกาศลดดอกเบี้ยให้จาก 1% เหลือ 0.25% ต่อปี สำหรับรถที่ยอมเข้าระบบอยู่ใต้กฎหมาย
3. ผ่อนปรนการใช้เอกสารเพื่อยืนยันภูมิลำเนาของผู้ขับขี่รถสาธารณะ จากที่ต้องได้รับการยืนยันจากผู้นำชุมชน เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นใช้เอกสารเฉพาะส่วนตัว เช่น บัตรนักเรียน-นักศึกษา เอกสารการทำงานในพื้นที่ กทม. ลดปัญหาการหาผู้รับรอง ตลอดจนขยายขนาดเครื่องยนต์รถจักรยานยนต์สาธารณะ จากเดิม 125 ซีซี โดยจะต้องร่วมปรับปรุงกฎหมาย ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อกำหนดขนาดซีซีที่เหมาะสมต่อไป คาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ 1 เดือน
4. พิจารณาแก้กฎหมายให้นำรถเช่ามาให้บริการสาธารณะผ่านแอปฯได้ เบื้องต้นกระทรวงคมนาคมเห็นชอบในหลักการและอยู่ระหว่างการดำเนินการของกรมการขนส่งทางบก
5. มอบเงินสนับสนุนพิเศษผ่านแพลตฟอร์ม ได้แก่ แกร็บ ไลน์แมน และ Bolt จูงใจให้ผู้ขับขี่เข้าระบบ โดยจะได้รับเงินสนับสนุนตั้งแต่ 5,000 – 20,000 บาทต่อคน
นายไชยชนก กล่าวอีกว่า มาตรการช่วยเหลือดังกล่าวซึ่งกำหนดสิ้นสุดวันที่ 28 ก.พ. 2569 ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะใช้วัดใจผู้ขับขี่ว่ามีความต้องการเข้าระบบเพื่ออยู่ภายใต้กฎหมายจริงหรือไม่ หากมีความตั้งใจจริง มาตรการเหล่านี้จะช่วยแบ่งเบาภาระตามข้อร้องเรียนมาได้
...
น.ส.มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รมช.คมนาคม กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้มีการผ่อนปรนเงื่อนไขให้บางส่วน แต่กระทรวงคมนาคมมีความมั่นใจว่าจะสามารถจัดระเบียบและควบคุมให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้โดยสารได้อย่างแน่นอน
ด้านนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันคาดว่าจะมีรถส่วนตัวที่ให้บริการสาธารณะผ่านแอปพลิเคชันอยู่ที่ประมาณ 200,000 คัน ในจำนวนดังกล่าวมีการเข้ามาจดทะเบียนถูกต้องกับกรมการขนส่งทางบกแบ่งเป็นรถมอเตอร์ไซค์ 2,082 คัน และรถยนต์ 6,189 คัน
อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม