“พิพัฒน์” ชวนผู้บริหาร Airbus ลงทุนศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) ที่สนามบินอู่ตะเภา พร้อมขอใช้ประเทศไทยเป็นฐานซัพพลายเชน อะไหล่เครื่องบิน

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรมว. คมนาคม เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับ นาย Anand Stanley ประธานและหัวหน้าประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และคณะผู้บริหาร Airbus เข้าหารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านพลังงานและอุตสาหกรรมการบิน โดยรัฐบาลได้ชักชวน Airbus เข้ามาลงทุนศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) ที่สนามบินอู่ตะเภา มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท อีกครั้ง

“รัฐบาลได้นำเสนอความร่วมมือด้านการลงทุนในประเทศไทยหลายประเด็น โดยเฉพาะการกลับมาพิจารณาลงทุนศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน ซึ่งก่อนหน้านี้เคยคิดว่าจะมีการตั้งศูนย์ซ่อมที่อู่ตะเภา แต่หลังจากเกิดโควิด-19 ก็เงียบหายไป จึงได้เชิญชวนทางบริษัท Airbus ให้กลับมาพิจารณาโครงการนี้อีกครั้ง ซึ่งทางผู้บริหารก็ขอกลับไปพิจารณา”

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า การชักชวนให้กลับมาลงทุนศูนย์ซ่อมอากาศยานในสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งเป็นโครงการที่ยังค้างอยู่ของแผนการลงทุนในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี จะยังใช้รูปแบบการร่วมทุนกับบริษัทในไทยอีกหรือไม่นั้น คงอยู่ที่การตัดสินใจของผู้ประกอบการ ส่วนการจัดเตรียมสิทธิประโยชน์ให้หรือไม่ คงต้องรอให้ Airbus ติดต่อกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งทางอีอีซี ก็มีสิทธิประโยชน์หรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ ให้อยู่แล้ว

...

“หากมีศูนย์ซ่อมตรงนี้ การที่ประเทศไทยจะเป็น Aviation Hub หรือ ศูนย์กลางทางการบินก็เกิดง่ายขึ้น อย่างน้อยที่สุดเครื่องบินที่มาแวะประเทศไทยก็สามารถมาใช้บริการได้ และเป็นการเร่งให้เราเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคให้เร็วยิ่งขึ้น และผลักดัน Aviation Hub ของไทยทำได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้”

ขณะเดียวกัน ทาง Airbus ยังได้เสนอให้ผู้ประกอบการในไทยสั่งเครื่องบินของ Airbus มากยิ่งขึ้น โดยได้แจ้งไปว่า ส่วนใหญ่นอกเหนือจากบริษัท การบินไทย แล้ว สายการบินที่บินในประเทศไทยส่วนใหญ่ก็ใช้เครื่องบินของ Airbus แต่หากต้องการให้มีการพัฒนาไปไกลกว่านี้หรือมากกว่านี้ การพิจารณากลับมาลงทุนในศูนย์ซ่อมก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีส่วนสำคัญที่อาจทำให้สายการบินในไทยร่วมมือกับ Airbus มากขึ้น อย่างไรก็ตาม การสั่งซื้อเครื่องบิน รัฐบาลแทรกแซงไม่ได้เพราะเป็นธุรกิจของภาคเอกชน ซึ่งเอกชนจำเป็นต้องเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะซื้อเครื่องบินจากบริษัทของสหรัฐฯ หรือยุโรป

พร้อมกันนี้รัฐบาลยังได้ขอให้ทาง Airbus พิจารณาซัพพลายเชน โดยเฉพาะอะไหล่เครื่องบินต่าง ๆ ที่ประกอบในไทย ซึ่งประเทศไทยมีความพร้อมในการเป็นซัพพลายเชน โดยผู้ประกอบการในไทยมีฝีมือในการผลิตไม่ได้น้อยกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค จึงอยากให้เลือกผู้ผลิตจากประเทศไทยมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ได้ขอให้ Airbus ถ่ายทอดและฝึกอบรมเทคโนโลยีในเรื่องของอากาศยานให้กับประเทศไทยด้วย

อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม