“ศุภจี” สั่งเกาะติดสถานการณ์สินค้าในพื้นที่น้ำท่วมใกล้ชิด ไม่ให้ขึ้นราคาซ้ำเติมประชาชน และไม่เกิดภาวะขาดแคลน ขณะที่ กรมการค้าภายใน ยอมรับ ราคาผักแพงจริง โดยเฉพาะผักชี ราคาพุ่งถึง กก.ละ 350 บาท หลังน้ำท่วมพื้นที่เพาะปลูก
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงการดูแลราคาสินค้าในพื้นที่น้ำท่วมว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่น้ำท่วม ติดตามดูแลสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเกษตร รวมถึงอาหาร เพื่อไม่ให้มีการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าเอาเปรียบประชาชน และไม่ให้เกิดภาวะขาดแคลน
ด้านนายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าต่างๆ ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างใกล้ชิด ทั้งในเรื่องของราคาขาย ที่ต้องไม่ให้มีการขึ้นราคาเอาเปรียบประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม และปริมาณสินค้า ที่ต้องมีอย่างเพียงพอ ไม่ขาดแคลน ซึ่งได้ประสานผู้ผลิต ห้างค้าปลีกค้าส่ง ให้จัดเตรียมสินค้าอย่างเพียงพอ และกระจายสินค้าอย่างทั่วถึง
นอกจากนี้ กรมยังกำลังเตรียมมาตรการช่วยเหลือประชาชนหลังน้ำท่วม เช่น จัดมหกรรมธงฟ้าลดค่าครองชีพ โดยจะเน้นสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงสินค้าวัสดุก่อสร้าง เพื่อซ่อมแซมบ้านเรือน ผลิตภัณฑ์ซักล้าง เป็นต้น และจัดรถโมบายธงฟ้ากระจายตามจุดจำหน่ายต่างๆ เป็นต้น
นายวิทยากร กล่าวต่อถึงกรณีที่ผักสดหลายชนิดราคาปรับเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว โดยเฉพาะผักชีในจังหวัดพิจิตร มีราคาสูงถึงกิโลกรัม (กก.) ละ 400 บาท เพราะแหล่งผลิตในภาคเหนือและภาคกลางมีน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างว่า จากการประสานให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัด ตรวจสอบ พบว่า ในบางพื้นที่เพาะปลูก โดยเฉพาะผักชีถูกน้ำท่วมผลผลิตเสียหาย 10-15% แต่แหล่งเพาะปลูกใหญ่ในภาคอีสาน ยังเพาะปลูกได้ตามปกติ เบื้องต้นได้ประสานให้นำผักสดจากภาคอีสานเข้าไปเสริมในตลาด โดยเฉพาะตลาดสี่มุมเมือง ตลาดไทย เชื่อว่า ภายใน 1-2 วัน ราคาผักสดจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
...
“ยอมรับว่าในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ราคาผักสดหลายชนิดในบางพื้นที่ปรับเพิ่มขึ้นจริง เช่น ผักชี ต้นหอม ผักบุ้ง ผักกวางตุ้ง โดยเฉพาะผักชี ราคาขึ้นไปแพงสุดเฉลี่ยถึง ก.ก.ละ 350 บาท แต่ขณะนี้ ราคาได้เริ่มลดลงแล้วมาอยู่ที่ ก.ก.ละ 200-250 บาท คาดว่า ภายใน 1-2 วัน ราคาผักสดจะปรับลดลงและเข้าสู่ภาวะปกติ”