กรมทางหลวง สั่งเฝ้าระวังพายุ “คัลแมกี” อย่างใกล้ชิด พร้อมเร่งอำนวยความสะดวกและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่เสี่ยงภัย
นายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ว่า พายุ “คัลแมกี” จะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยในช่วงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 และส่งผลให้หลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เกิดฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ จึงได้สั่งการให้สำนักงานทางหลวงและแขวงทางหลวงในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เครื่องจักรกล และอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที
สำหรับพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดสุโขทัย จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดอ่างทอง และจังหวัดอุทัยธานี ซึ่งอาจมีฝนตกต่อเนื่องและมีน้ำล้นตลิ่งในบางจุด ทั้งนี้ อธิบดีกรมทางหลวงได้เน้นย้ำให้หน่วยงานในพื้นที่ดำเนินการดังต่อไปนี้
...
1. เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำและอุทกภัยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะบริเวณทางหลวงที่ตัดผ่านพื้นที่ลุ่มแม่น้ำ และจุดเสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก พร้อมทั้งรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่องไปยังศูนย์บริหารงานอุบัติภัย กรมทางหลวง
2. ติดตั้งป้ายเตือน ป้ายบอกระดับน้ำ และเสาแสดงแนวเขตทางอย่างชัดเจน ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อเตือนผู้ใช้ทางให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง และเมื่อระดับน้ำลดลง ให้เร่งเข้าประเมินความเสียหายและดำเนินการซ่อมแซมเบื้องต้นโดยเร็ว เพื่อเปิดการจราจรให้ประชาชนสัญจรได้ตามปกติ
3. บูรณาการร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการสนับสนุนกำลังคน เครื่องจักรกลหนัก รถบรรทุกน้ำ ยานพาหนะ และทรัพยากรที่จำเป็น เพื่ออำนวยความสะดวกและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุคัลแมกีอย่างเต็มที่
4. จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนโดยเร่งด่วน ทั้งการอำนวยความสะดวกในการสัญจร การส่งมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ อาหาร น้ำดื่ม และของใช้จำเป็น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ประชาชน
พร้อมกันนี้ กรมทางหลวงได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพร้อมรายงานสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งจัดตั้งชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่เสี่ยงภัย
ปัจจุบันโครงข่ายในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงประสบอุทกภัยจำนวน 6 จังหวัด 12 สายทาง 18 แห่ง ผ่านไม่ได้ 6 แห่ง ดังนี้
1. จ.เชียงใหม่ ผ่านไม่ได้ จำนวน 3 แห่ง
- ทล.1012 ฮอด - วังลุง - บ้านนาคอเรือ ช่วง กม.11+000 - 11+250 และ ช่วงกม.12+000 - 14+200
เส้นทางเลี่ยง (ไป อ.ฮอด - บ.นาคอเรือ)
* จากบ้านหางดง อ.ฮอด ใช้เส้น ทล. 1012 จนถึงบ้านโค้งงาม กม.6+200 เลี้ยวขวาเข้าซอยข้างร้านโค้งงามการเกษตร
* ใช้เส้นทางท้องถิ่นไปบรรจบ ทล.1012 กม.14+900 ที่สหกรณ์นิคมนาคอเรือ เลี้ยวขวาไป บ้านนาคอเรือ
- ทล.1322 เชียงดาว - บ้านเมืองนะ ช่วง กม.126+845 - กม.126+975
...
เส้นทางเลี่ยง (ไป อ.เชียงดาว - บ.เมืองนะ)
* จากสามแยกรินหลวง ใช้เส้น ทล. 1178 จนถึง กม.35+000
* เลี้ยวซ้ายเข้าหมู่บ้านหนองเขียว ใช้เส้นทางท้องถิ่นไปบรรจบ ทล. 1322 ที่กม. 125+700
* เลี้ยวขวาไป บ.เมืองนะ บ.แกน้อย
2. จ.สุโขทัย ผ่านไม่ได้ จำนวน 2 แห่ง
- ทล.125 ช่วงกม.14+000 - 19+800 อ.เมืองสุโขทัย
- ทล.1347 ช่วงกม. 0+100 - 5+200 อ.เมืองสุโขทัย
เส้นทางเลี่ยง จ.ตาก และไป จ.พิษณุโลก
* ไป จ.พิษณุโลก เข้าสู่ ทล.1272 ถึงสามแยกบ้านนา เลี้ยวขวาเข้า ทล.1272 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้า สท.3017
* ไป อ.เมืองสุโขทัย และไป จ.พิษณุโลก
* ไป จ.ตาก เข้าสู่ ทล.125 (โค้งตานก) เข้า ทล.12 เข้าเมืองสุโขทัย สี่แยกคลองโพธิ์ เข้า ทล.101 และเข้าสู่ สท.3017 เลี้ยวเข้า ทล.1272 เพื่อไป จ.ตาก
3. จ.อุทัยธานี ผ่านไม่ได้ จำนวน 1 แห่ง
- ทล.3319 ช่วงกม. 17+800 - 18+400 อ.ทับทัน บันไดสามขั้น - ทับทัน
...
เส้นทางเลี่ยง เขื่อนวังล่ม
* ทล.3319 เลี้ยวซ้ายเข้าไปเขื่อนวังล่ม
* วิ่งถนนท้องถิ่นไปบรรจบ ทล.3221 เลี้ยวซ้ายที่ กม. 0+000
* เดินทางบน ทล.3221 ไป อ.ทับทัน
ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลเส้นทางหรือแจ้งเหตุอุทกภัยบนทางหลวง สามารถติดต่อ สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง)
อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม