คาดเศรษฐกิจดิจิทัลปี 2569 เติบโต 4.2% มูลค่า 5.6 ล้านล้านบาท ขยายตัวในอัตราลดลงในรอบ 3 ปี จากผลกระทบภาษีทรัมป์ กดส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไปตลาดสหรัฐฯ แต่การขยายตัวยังสูงกว่าการเติบโตของจีดีพีประเทศกว่า 2.1 เท่า ส่วนปี 2568 คาดเติบโต 5% ด้วยอานิสงส์เร่งส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เข้าสหรัฐฯในช่วง 8 เดือนแรกก่อนโดนขึ้นภาษี

นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) เปิดเผยในงานสัมมนา “นโยบายและแนวโน้มเศรษฐกิจดิจิทัล ปี 2568 และ 2569” เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2568 ว่า ประมาณการเศรษฐกิจดิจิทัล ปี 2568 คาดว่าจะมีมูลค่า 5.3 ล้านล้านบาท เติบโต 5% จากปีก่อนหน้า คิดเป็นสัดส่วน 28.2% ของจีดีพีของประเทศที่ 18.9 ล้านล้านบาท โดยการเติบโตส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเร่งส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แผงวงจร ฮาร์ดดิสก์ ไปสหรัฐอเมริกาในช่วง 8 เดือนแรกของปี เติบโตถึง 24% เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีทรัมป์

ส่วนประมาณการในปี 2569 คาดว่าเศรษฐกิจดิจิทัลจะมีมูลค่า 5.6 ล้านล้านบาท เติบโต 4.2% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ชะลอลงจากปี 2568 ครั้งแรกในรอบ 3 ปีตั้งแต่ปี 2565 คิดเป็นสัดส่วน 29% ของจีดีพี และยังคงขยายตัวได้ 2.1 เท่าของอัตราเติบโตของเศรษฐกิจไทย ซึ่งประเมินว่าจะขยายตัว 2% ในปี 2569

“การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลสำหรับประเทศไทย ควรอยู่ที่ประมาณปีละ 5% แต่ปี 2569 จะเป็นปีแรกที่เราเติบโตลดลง ไม่รวมช่วงโควิด ปัจจัยลบส่วนใหญ่มาจากการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไปยังตลาดสหรัฐอเมริกาที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากอัตราภาษีทรัมป์ที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนการแข่งขันกันดึงดูดการลงทุนด้านดิจิทัลในภูมิภาค และความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ”

...

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกจากการลงทุนภาคเอกชน โดยเฉพาะการลงทุนด้านดาต้าเซ็นเตอร์จากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำทั่วโลกที่ทยอยเข้ามาลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการเติบโตของใช้งานด้านดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็น การใช้ปัญญาประดิษฐ์(AI) การใช้งานโปรแกรมเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจต่างๆ เช่น ระบบซอฟต์แวร์ที่ช่วยบริหารจัดการทรัพยากรขององค์กร (ERP - Enterprise Resource Planning), ระบบจัดการการขาย ณ จุดชำระเงิน หรือ POS (Point of Sale)ที่ธุรกิจร้านอาหารใช้งานกันอย่างแพร่หลาย

นายเวทางค์ ยังกล่าวถึงเป้าหมายภายใต้แผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลให้ถึง 30% ของมูลค่าเศรษฐกิจไทยทั้งหมด รวมทั้งเป้าหมายการทำให้ประเทศไทยติด 30 อันดับแรกของโลกที่มีความสามารถในการแข่งขันทางดิจิทัลภายในปี 2570 ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจดิจิทัลของไทยจะขยับสัดส่วนแตะ 30% ของเศรษฐกิจรวมของประเทศ ส่วนการขยับติด 30 อันดับแรกของโลกที่มีความสามารถในการแข่งขันทางดิจิทัลนั้น อาจต้องลุ้นมากหน่อย เนื่องจากปีล่าสุด (2567) ไทยอยู่ในอันดับ 37

อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม