รัฐบาลลุยปราบสแกมเมอร์ ปราบสแกมเมอร์ ยกระดับคุมเข้มซิมบ็อกซ์-ไลฟ์เน็ต เตรียมออกกฎหมายนำเข้า พร้อมใช้ "สแกนม่านตา" ยืนยันตัวตนซิมมือถือ "ตำรวจไซเบอร์" ยอมรับตัวเลขแจ้งความถูกหลอกลวงผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ยังมีต่อเนื่อง
นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 7/2568 โดยมี นายพชร อนันตศิลป์ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือตำรวจไซเบอร์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจ กสทช. ธนาคารแห่งประเทศไทย ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม (Facebook Line Tiktok) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินหรือ ปปง. กรมศุลกากร โอเปอเรเตอร์ รวมทั้งภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับสถาบันการเงิน 7 แห่ง ว่า ประเด็นสำคัญของการประชุมในวันนี้ คือ เรื่องเครื่องซิมบ็อกซ์ (Simbox) ขณะนี้ได้ประสานข้อมูลจากทางกรมศุลกากร เพื่อให้นำข้อมูลการนำเข้าเครื่องซิมบ็อกซ์ ทั้งแบบเครื่องสมบูรณ์และเครื่องแยกส่วนประกอบ มาส่งที่ทางคณะกรรมการฯ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวให้ทางตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการติดตามการใช้งานอุปกรณ์ซิมบ็อกซ์เหล่านี้ว่านำไปใช้ผิดกฎหมายหรือไม่
ขณะเดียวกัน ได้เตรียมที่จะออกประกาศกฎกระทรวงฯ ในเรื่องการนำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์ซิมบ็อกซ์ ทั้งแบบสมบูรณ์และแยกชิ้นส่วน โดยการนำเข้าหรือจัดจำหน่ายต้องขออนุญาตจากหน่วยงานราชการเท่านั้น ห้ามจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตเด็ดขาด
นอกจากนี้ ยังได้พูดคุยหารือกับโอเปอเรเตอร์ และสถาบันการเงิน ร่วมกับทาง กสทช. เพื่อทบทวนมาตรการยืนยันตัวตนลงทะเบียนซิมโทรศัพท์มือถือ ผ่านระบบ Liveness Detection ซึ่งใช้เทคโนโลยี เพื่อตรวจสอบตัวตนผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือ ให้ยืนยันตัวตนว่าเป็นบุคคลจริง ไม่ใช่รูปภาพหรือวิดีโอปลอม
...
ยืนยันตัวตนลงทะเบียนซิมผ่านการสแกนม่านตา ซึ่งจะสามารถป้องกันการสวมรอยซิมได้ และมาตรการดังกล่าวเป็นการอุดรอยรั่วของระบบลงทะเบียนซิมแบบเดิม ที่ทำให้บุคคลมีซิมจำนวนมาก อีกทั้งยังสกัดการจ่ายสัญญาณไปยังซิมบ็อกซ์ด้วย
รวมถึงยังได้ประสานงานกับตู้ขายโทรศัพท์มือถือตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศกว่า 60,000 แห่ง ว่าให้ระงับการลงทะเบียนหน้าตู้ และให้ลูกค้านำซิมไปลงทะเบียนกับศูนย์บริการของแต่ละค่าย โดยตู้ขายโทรศัพท์มือถือยังสามารถขายซิมได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องนำข้อมูลไปแจ้งทางตำรวจว่าได้ขายซิมให้ใครบ้าง และขายในพื้นที่ใด เพื่อสะดวกต่อการติดตามเจ้าของซิม
ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า แม้ว่าตอนนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีมาตรการเชิงรุกที่สามารถจับกุมและระดมกวาดล้างคดีสแกมเมอร์ได้หลายราย โดยที่ผ่านมาเคยรับปากว่าจะลดตัวเลขการแจ้งความออนไลน์ จากวันละ 1,000 เคสต่อวัน ให้ลดลงภายใน 6 เดือนนั้น ล่าสุดจากการสังเกตตัวเลขในรอบหลายวันที่ผ่านมา พบว่า ตัวเลขลดลงเป็นบางวัน แต่ยังไม่สม่ำเสมอ จึงเตรียมที่จะเร่งเครื่องการปราบปรามให้มากขึ้น
ล่าสุดจากตัวเลขการแจ้งความ พบว่าเป็นการหลอกลวงผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ประมาณ 600 เคสต่อวัน หรือประมาณ 50% ของการแจ้งความทั้งหมด และมีการหลอกลวงผ่าน SMS และโทรศัพท์มือถือ อีกกว่า 100 เคส
อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม